วิธีอัพเกรดมาใช้ Office 2016 ใน Office 365 Midsize Business หรือ Office กลุ่ม Enterprise ที่ได้ Office 365 รุ่น ProPlus

การอัพเกรดมาใช้ Office 2016 ใน Office 365 Midsize Business หรือ Office กลุ่ม Enterprise ที่ได้ Office 365 รุ่น ProPlus จะแตกต่างจากตัวอื่นๆ ตรงที่เป็นอัพเดทแบบ Current Branch for Business (CCB) ซึ่งมีรอบอัพเดทความสามารถใหม่ๆ แบบ 4 เดือนครั้ง คือช่วงเดือน กุมภาพันธ์ มิถุนายน และตุลาคม ซึ่งจะไม่ได้ทันทีแบบรุ่นอื่นๆ Office 365 ในแผนการอัพเดทปรกติ คือกลุ่มนี้หากใช้รอบอัพเดทปรกติจะได้รับการอัพเดทกุมภาพันธ์ปี 2016 ครับ

Get-ready

แต่แน่นอนว่าอยากอัพเดทเร็วแบบชาวบ้านเค้าก็ทำได้ครับ โดยเข้า ไปเปลี่ยนที่ Services Settings > Update แล้วเปลี่ยนจาก Standard release มาเลือกที่ Entire organization ใน First Release แทน

2015-09-23_234617

เวลาพนักงานหรือผู้ใช้งาน ต้องการอัพเกรด ก็เข้าที่ Install and manage software แล้วจะมีหัวข้อ Try the next version of Office โผล่มาให้เราเลือกเพิ่มเติม เราก็โหลดตรงนั้นมาติดตั้งแทน แล้วมันจะอัพเกรดจาก Office 2013 มา Office 2016 ให้ โดยที่ configuration และข้อมูลอีเมลต่างๆ จะย้ายมาให้ทั้งหมด ใช้เวลาโหลดไม่นานนักก็ได้มาใช้งานแล้ว

2015-09-23_234820

ขอบคุณ Microsoft Customer Support ที่อเมริกาและสิงค์โปร์ที่แนะนำวิธีนี้มาให้ เปิด ticket เมื่อคืน อีก 30 นาทีโทรมาจากอเมริกา (ผมนอนไปแล้วไม่ได้รับ) เช้ามาเปิดเมล เค้าส่งเมลมาถามและแนะนำวิธีเบื้องต้น พอให้ข้อมูลเพิ่มเติมไป ทางสิงค์โปร์เมลมาตามเคสแทนเพราะเป็นเวลาทำการแถวนี้ พร้อมแนะนำวิธีข้างบนให้ และปิดเคสไปในเวลาไม่ถึงวัน support ฝั่ง Office ยังคงความประทับใจเสมอ (เปิด ticket ไปหลายครั้งก็ประทับใจทุกครั้ง เพราะตอบกลับใช้เวลาไม่นาน และแนะนำได้ตรงจุดจริงๆ)

ข้อมูลอื่นๆ Office 2016 Problems and Solutions and Frequently Asked Questions

ปล. 1: ตอนนี้ Microsoft เลิกขาย Office 365 Midsize Business ไปแล้ว เปลี่ยนชื่อ Plan ใหม่เป็น Office 365 Business Premium
ปล. 2: แพตพวก security ยังอัพเดททันทีเหมือนรุ่นปรกติ

2015-09-23_232104

ข้อควรทราบของการอัพเกรดมา Windows 10

พยายามหาข้อมูลมาให้ประมาณนี้ครับ

  • Windows 7 และ 8.1 สามารถ upgrade ไป Windows 10 ได้จนถึง ก.ค. 2559
  • จากที่ทดสอบส่วนตัว driver ส่วนใหญ่บน Windows 8.1 สามารถนำมาใช้กับ Windows 10 ได้
  • หากกำลังจะซื้อ Windows 10 แบบ OEM แนะนำให้ซื้อ Windows 8.1 OEM แทนจะได้ราคาถูกกว่า
  • หากต้องการใช้สิทธิ์ FPP บน Windows 10 จะต้องซื้อ Windows 10 FPP ต่างหากแยกมาเท่านั้น
  • หากใช้ Windows 7 และ 8.1 ที่เป็น OEM ก่อนอัพเกรด กลุ่มนี้หากอัพเกรดไป Windows 10 จะได้สิทธิ์ตาม OEM เดิมซึ่งจะไม่สามารถย้ายเครื่องได้
  • หากใช้ Windows 7 และ 8.1 แบบ FPP ก่อนอัพเกรด กลุ่มนี้จะย้ายเครื่องได้บนสิทธิ์ FPP ของ version เดิมจนถึงเดือน ก.ค. 2559  หลังจากนั้นแล้วหากอัพเกรดมา Windows 10 แล้วจะย้ายเครื่องตามสิทธิ์ FPP ของ version เก่าไม่ได้
  • Windows 8.1 ที่ซื้อ upgrade มาจาก Windows 7 จะได้สิทธิ์การอัพเกรดไป Windows 10 เช่นเดียวกัน แต่สิทธิ์นั้นเป็น FPP จะถือเป็นสิทธิ์ของ version เก่า หากอัพเกรดมา Windows 10 แล้วจะไม่สามารถย้ายเครื่องได้
  • การติดตั้ง Windows 10 สามารถ skip การใส่ Product Key ได้จนติดตั้งเสร็จและใช้งานได้ โดยมีคำเตือนแจ้งว่าตัว Windows 10 ที่ใช้งานอยู่ยังไม่ Activate ให้ทำการ Activate ซึ่งช่วยให้คนที่ต้องการลองใช้งานได้สามารถลองใช้งานได้สะดวกมากขึ้น
  • Windows 10 หากลงแบบ upgrade ผ่านแล้ว ให้เช็คว่าตัว Windows 10 นั้น Activate ผ่านเรียบร้อยแล้วหรือยัง ถ้า Activated แล้ว สามารถ clean install ได้ครับ โดยตอนที่ถาม product key ให้กด skip ไปเลยก็ได้ เพราะลงเสร็จแล้วตัว Windows จะทำการ Activate ให้เองอีกครั้งโดยไม่ถาม product key
  • หากใช้ Tablet ที่มี Windows 8.1 Single Language (with Bing) สามารถอัพเกรดไป Windows 10 Home Single Language ได้
  • ตัว Windows 8.1 Single Language (with Bing) สามารถอัพเกรดไป Windows 10 Home Single Language ได้ โดยรัน Media Creation Tool ของ Windows 10 บนเครืองนั้น จะมีตัวเลือกของ Windows 10 Home Single Language ให้โหลดเพิ่มเติม อย่าไปรันบนเครื่องอื่นที่ไม่ใช่ Windows 8.1 Single Language (with Bing) เพราะจะไม่มีตัวเลือกนี้ขึ้นมาให้ ส่วนการโหลดให้เลือก Architecture แบบ Both ไปเลย เพราะจะได้ไม่มีปัญหาว่า x86 หรือ x64 ทีหลังอีก

รวบรวมมาได้ประมาณนี้ครับ

ตั้ง default browser ใน Windows 10 ให้เป็น browser ยี่ห้ออื่นนอกเหนือจาก Microsoft Edge

จาก An Open Letter to Microsoft’s CEO: Don’t Roll Back the Clock on Choice and Control และข่าว Angry Mozilla CEO to Satya Nadella: Give Users Choice and What They Deserve in Windows 10 ซึ่งต้นเหตุของเรื่องคือการตั้ง default browser บน Windows 10 นั้นไม่สามารถทำได้ผ่าน API ตัวเก่าที่ทั้ง Mozilla Firefox หรือ Google Chrome สามารถปรับแต่งและเข้าถึงได้ (เหมือนเปลี่ยน API ใหม่) ทำให้การตั้ง default browser นั้นไม่สามารถทำได้ผ่านโปรแกรมที่ติดตั้ง (ณ ตอนนี้)

ทางแก้ไขคือทำการตั้งค่าเองผ่าน Settings ของ Windows 10 ซึ่งยุ่งยากกว่าเล็กน้อย

1. ไปที่ Start menu และไปที่ Settings

2015-07-31_141316

2. ไปที่ System

2015-07-31_141411

3. ไปที่หัวข้อ Default apps และเลื่อนหา Web browser แล้วเลือก browser ที่ต้องการให้เป็น default browser บนเครื่องที่ติดตั้ง Windows 10

2015-07-31_141455

เพียงเท่านั้นก็สามารถกลับมาใช้ browser ที่แต่ละคนถนัดได้อีกครั้ง

บันทึกการอัพเกรด จาก Windows 8.1 มา Windows 10

เป็นบันทึกที่ผมจะพยายามอัพเดทใส่ไปเรื่อยๆ ในช่วงนี้ครับ เพื่อเป็นแหล่งอ้างอิงหากคนอื่นๆ เจอปัญหา จะได้มีแนวทางแก้ไขต่อไป (ผมจะบันทึกเท่าที่ผมเจอนะ)

วิธีการอัพเกรดไป Windows 10 โดยไม่ต้องรอคิว หรือจองคิวไว้แล้วมันไม่เด้งให้อัพเกรดสักที (ซึ่งผมใช้วิธีนี้) อการเข้าไปที่ https://www.microsoft.com/en-us/software-download/windows10 แล้วโหลดมาติดตั้งได้เลย โดยเลือกรุ่นที่อัพให้ตรงกับที่กำลังอัพเกรด x86 vs x64 ซึ่งตัวติดตั้งเป็นตัวโปรแกรมเลือกอีกชั้นว่าจะใช้ภาษาอะไร รุ่น edition ไหน และสถาปัตยกรรมระบบอะไร สุดท้ายเลือกว่าจะโหลดมาใส่ใน media แบบไหน มีทั้ง Flash Drive และ ISO สำหรับ burn DVD แล้วค่อยรันไฟล์ติดตั้งจาก media นั้นๆ อีกที (ผมใช้ผ่าน Flash Drive) เมื่อจะติดตั้ง ให้ตัวเลือกติดตั้งมีแบบอัพเกรดโดยไม่ลบโปรแกรมและไฟล์ใดๆ เพียงแต่อาจต้องลง driver บางตัวใหม่ โดยระยะเวลาในการอัพเกรดประมาณ 1-3 ชั่วโมง พื้นที่ของ Drive C ควรเหลือไว้อย่างน้อยสัก 40 GB กำลังดี ซึ่งวิธีนี้คุณจะได้ทั้งการอัพเกรดในครั้งนี้ และไฟล์ติดตั้งไว้ใช้ติดตั้งใหม่ในครั้งหน้าได้อีกด้วย

สำหรับคำแนะนำอื่นๆ สามารถอ่านได้จาก วิธีอัพเกรดเป็น Windows 10.pdf ซึ่งเนื้อหาเป็นภาษาไทย อ่านง่ายครับ

11707760_10153425068310275_5934410800801799577_o

หลังจากติดตั้งก็ต้องปรับแต่งนิดหน่อย คือ

  1. ต้องปรับแต่งส่วนของ quick access ให้ไม่โชว์ recently used และ frequently used ไม่งั้นรกมาก

    2015-07-30_175648

  2. ปรับแต่งส่วนของ start panel ใหม่ เพราะมันไม่เอาที่จัดเรียงไว้จาก start screen เดิมมาให้ด้วย
  3. สำหรับคนที่ upgrade มา Windows 10 จาก Windows 7 หรือ Windows 8.1 แบบผม จะพบว่ามี folder ชื่อ Windows.old อยู่ ซึ่งกินเนื้อที่ค่อนข้างเยอะ (หลัก 10GB++) แนะนำให้ใช้ Disk Cleanup ในการลบได้ครับ โดยมันคือ folder ที่เก็บตัว Windows ตัวเก่าที่เราเพิ่งอัพเกรดมา เผื่อในอนาคตเราอยาก downgrade กลับไป มันก็จะใช้ folder นี้แหละในการ downgrade ให้ ซึ่งหากใครแน่ใจว่าไม่กลับไปแน่นอน
  4. หากลง Windows 10 แล้วเจอปัญหาว่า Windows update มัน update driver ตัวที่ไม่สมบูรณ์มาให้ ทั้งๆ ที่ลงตัวล่าสุดจากเว็บผู้ผลิตแล้ว ให้ใช้โปรแกรมย่อยที่ชื่อ Show or hide updates ที่ดาวน์โหลดได้จาก link ด้านล่างนี้มาปิดการอัพเดทนั้นๆ แล้วค่อยอัพเดท driver ตัวล่าสุดกลับมาอีกครั้ง โดยส่วนตัวเจอปัญหากับ NVIDIA driver จนทำให้การเรนเดอร์หน้าจอ และการใช้งานส่วนอื่นๆ ช้าไปหมดจนทำงานไม่ได้ครับ (How to temporarily prevent a Windows or driver update from reinstalling in Windows 10 https://support.microsoft.com/en-us/kb/3073930)ดาวน์โหลดไฟล์ wushowhide.diagcab มาครับ แล้วสั่งรัน จะได้หน้าตาแบบนี้แล้วกด Next

    2015-07-30_173052
    รอให้มันเช็คค่าต่างๆ สักหน่อย

    2015-07-30_173113
    ถ้าต้องการยกเลิกการอัพเดทอะไร ให้กด hidden updates ครับ

    2015-07-30_173205
    มันจะแสดงรายการ update/driver ต่างๆ ตรงนี้ก็เลือกตัวที่อาจจะมีปัญหาครับ (ติ๊กเครื่องหมายถูก) แล้วกด Next แล้วนั่งรอจากมันขึ้น Fixed ครับ

    2015-07-30_173225
    หลังจากนั้นก็ติดตั้ง driver ตัวที่มีปัญหาโดน Windows มัน update ทับไปใหม่อีกครั้งหากต้องการกลับมาปลด Hidden updates ออก สามารถทำผ่าน Show hidden updates โดยจะมีรายการที่เราทำไว้ก่อนหน้านี้แสดงและติ๊กเลือกเพื่อปลดออกไปครับ

    2015-07-30_173337

  5. ใครใช้ OpenVPN บน Windows 10 แนะนำให้อัพเกรดมารุ่นล่าสุด โดย ณ ตอนนี้คือ 2.3.7 เพื่อให้ใช้งานได้ต่อไปครับ

หลังจากทำสิ่งต่างๆ ทั้ง 5 ข้อแล้ว ทั้งหมดก็ทำงานลื่นดี ไม่มีปัญหา อัพจาก Windows 8.1 มา โปรแกรมที่ใช้ๆ อยู่ ทำงานได้ปรกติดี

2015-07-30_164647

เล่าสู่กันฟังกับการ upgrade จาก Windows 7 มา Windows 8

เป็นเวลาเกือบๆ ปีที่เฝ้ารอ Windows 8 แม้ว่าจะได้ลองใช้ Consumer Preview และ Release Preview มาสักพักใหญ่ แน่นอนว่าได้ไปเข้าร่วมงาน Windows 8 Developer Camps ที่ ม.เกษตรฯ เมื่อต้นปีที่ผ่านมาด้วย ได้พัฒนา Apps บน Windows 8 Style UI (Metro UI/Modern UI) แล้วก็ได้เล่นๆ แบบจับๆ วางๆ เพราะหน้าที่การงานมันยุ่งวุ่นวายตลอด แต่โดยรวม ถือว่าได้สัมผัสและรับทราบการเปลี่ยนแปลงอยู่เป็นระยะๆ

มาเมื่อคืนวันที่ 25 ต.ค. 2555 ที่ผ่านมา ผมก็ได้ดู Live เปิดตัว Windows 8 ผ่าน Internet ประมาณเวลา 22:15 น. ตามเวลาประเทศไทย พอดูจบ ผมก็เข้าเว็บเพื่อสั่งซื้อ ดูว่าได้ไหม สรุปว่าพอเที่ยงคืนก้าวเข้าวันที่ 26 ต.ค. 255 ที่ผ่านมา ก็สามารถซื้อได้ โดยคลิ้ก Buy $39.99 แบบ upgrade จาก Windows 7 ที่ผมมีอยู่ โดยเว็บได้ส่งไฟล์ Windows8-UpgradeAssistant.exe มาให้ผม แล้วให้ติดตั้งบนเครื่องเพื่อตรวจสอบก่อนว่าเครื่องเราพร้อมที่จะ upgrade หรือไม่

2012-10-25_215226

IMG20121025223210

เวลาผ่านไปเกือบตีหนึ่ง ผมนั่งรออยู่ที่หน้า checking compatible แล้วพบว่ามี Software และ Driver ต่างๆ ที่ไม่รองรับเป็นรายการที่เยอะมาก เมื่อเห็นเช่นนั้น ผมก็ไล่ปรับตามคำแนะนำ ทั้ง remove และเคลียร์ setting ต่างๆ จนผ่านขั้นตอนนี้ไป

มาถึงขั้นตอนการสั่งซื้อ ก็กรอกข้อมูลส่วนตัว-ที่อยู่ ลงไปพร้อมข้อมูลในการชำระเงิน เพื่อซื้อตัว upgrade

2012-10-25_235923

ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี การซื้อต่างๆ ทำผ่าน Windows 8 Upgrade Assistant ได้อย่างราบรื่นในราคา $39.99 ผ่านระบบ ระบบจะส่งอีเมลพร้อม CD-Key มาให้ทางอีเมลที่กรอกไว้ตอนชำระเงิน ผมแนะนำว่าอีเมลนั้นควรจะเป็นอีเมลที่ปลอดภัยและใช้งานร่วมกับ Windows 8 ในอนาคตด้วย

image

ทุกอย่างผ่านในส่วนของ CD-Key แล้วก็ Download ตัว Windows 8 Pro ผ่าน Internet ใช้เวลา 2 ชั่วโมงโดยประมาณ

(สำหรับ Internet 4Mpbs)

2012-10-26_002835

สรุปว่า…… Windows 8 Install Failed!!! …….. T_T เศร้าครับ

เพราะขั้นตอนทั้งหมดไล่จนถึง Windows 8 Install Failed นั้นคือ ตี 3 แล้ว!!!

ผมยังไม่ละความพยายาม ลองอีกครั้ง คิดว่าเป็นที่ AntiVirus/Firewall ฯลฯ ไล่ปิดทั้งหมด แล้วลองใหม่ สรุปเหมือนเดิม T_T

ผมเปิด Administrator Tools แล้วใช้ EventViewer เพื่อเช็คว่าเกิดอะไรขึ้น ผมนั่งไล่ error log ของ Windows 8 Install ทั้งหมด พบว่าไฟล์ Installation ของโปรแกรมหลายๆ ตัวไม่มี ซึ่งคงเป็นเพราะผมไล่ลบมันออกเพราะประหยัดเนื้อที่ของ System Drive ที่ผมใช้เป็น SSD (มีพื้นที่จำกัด) มันเลย Migrate/Upgrade ไปไม่ได้ มี Fail อยู่หลายตัวด้วยกัน นั่งมึนๆ งงๆ ง่วงๆ อยู่พัก แต่โชคดีที่ Windows 8 Install มันเช็คก่อนว่ามีอะไรมีปัญหาไหม เพราะตอนนั้น Windows 7 ผมก็ยังทำงานได้อยู่เป็นปรกติ (แต่โปรแกรมไล่เอาออกไปเยอะเหมือนกัน)

เอาไงหล่ะ ><”

ผมตัดสินใจ เอาวะ!!! ไหนๆ ก็ไหนๆ ผมก็ Backup ตัว Profile User ของ Windows 7 ทั้งหมด เพื่อที่จะทำการ Format เพื่อ Clean Install แทนครับ

แล้วไงต่อ ไม่มีแผ่น!  (><”)\

แต่เดี่ยวนะ ผมมี!

ผมจำได้ว่าผมมี en_windows_8_pro_vl_x64_dvd_917699.iso อยู่ มันเป็น DVD Image ของ Windows 8 Pro Volume License แบบ x86x64 บน MSDN ผมลองลงดู มันไม่ถาม CD-Key!!! ><”

ไม่ๆๆๆ มันแปลกๆ ผมว่ามันโดน Activation Block ในอนาคตแน่ๆ ผมไม่อยากมีปัญหา ผมเลยมานั่งคิดๆ

เออ ใช่! มีอีกไฟล์นี่น่า! (^O^)/

ใช่ ผมมี Windows_8_Pro_EN-US_x64.ISO ซึ่งเป็นไฟล์ DVD Image ของ Windows 8 Pro RTM อยู่แล้ว และได้มาสักพักใหญ่ๆ ซึ่งเป็นไฟล์ที่ได้จาก MSDN แต่ตอนนั้นผมไม่มี CD-Key แต่ตอนนี้องค์ประกอบครบ ได้ใช้แล้ว!!!

ตอนแรก Write ลง DVD ไว้ด้วยแผ่นหนึ่ง แต่ลืม ><”

IMG20121026193230

ผมใช้ Windows 7 USB/DVD download tool เอาตัวไฟล์ DVD Image อัดใส่ USB Drive ว่างๆ ขนาด 8GB ที่มีอยู่ทันที แล้วทำการ Format  เครื่องแล้วติดตั้งใหม่แบบ Clean Install เสียบ USB Drive แล้วตั้งให้เครื่องบูตจาก USB Drive เพื่อติดตั้ง

คราวนี้ไม่พลาด พอเข้าหน้าเริ่มติดตั้งถาม CD-Key ทันที!

ผมกรอก CD-Key ที่ได้ลงไป และผ่านไปได้ด้วยดี การติดตั้งไม่มีอะไรมาก คลิ้ก Format ตัว SSD ที่ผมจะติดตั้ง และคลิ้ก Install อีก 1-2 ครั้ง นั่งรอ ดื่มน้ำเย็นๆ สักพัก ให้หายง่วง หน้าจอ Windows 8 ขึ้นมา พร้อมแนะนำการใช้งานตัว Start Screen ตัวใหม่

ทุกอย่างติดตั้งไปอย่างราบรื่น Windows 8 Pro แนะนำให้ต่อ Internet เพื่อทำการ Install Apps ของ Windows 8 Style UI ใหม่และ update patch ต่างๆ

ระหว่างนี้ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี ผมไล่หา Driver ของ ThinkPad T420 เครื่องที่ผมใช้งานหลักอยู่ ทุกอย่างไม่มีปัญหาเพราะ Lenovo ไล่ Update ตัว Driver และ Utility เกือบทั้งหมดที่จำเป็นรอไว้แล้วในวันที่ 26 ต.ค. 2555

สำหรับ Driver นั้น ถ้ามีสำหรับ Windows 8 ก็ใช้งานได้เลย แต่ถ้าไม่มี ก็ใช้ Driver ของ Windows 7 ไปก่อนได้ เพราะเกือบจะทั้งหมดทำงานได้บน Windows 8 ครับ (ที่ใช้คำว่า “เกือบ” เพราะอาจจะมีบางส่วนเจอปัญหา แต่ผมยังไม่เจอปัญหา)

Tips: พอใช้ไปสักพัก ปุ่ม Start หายไป! (แน่นอน ผมรู้มานานแล้ว)

ผมเลยเข้า http://www.stardock.com/products/start8/ เพื่อกดไปซื้อ ปุ่ม Start ที่มันเคยมีกลับคืนมาในราคา $4.99 ><”

image

แล้วผมก็ได้มันกลับคืนมา!!!

win8

สำหรับการใช้งานโดยทั่วไป ซึ่งถ้าพูดเรื่องความเร็วแล้วถือว่าเร็วขึ้นทั้ง Boot Up, Sleep/Wake up และ Hibernate สำหรับในส่วนของการใช้งาน Start Screen อาจจะต้องใช้เวลาในการปรับตัวกันสักหน่อย และเรื่องการ Setting หลายๆ อย่างที่มันไปหลบซ่อนอยู่ (รวมถึง Menu ปิดเครื่อง)

Tips: การปิดเครื่องนั้นให้กดปุ่ม Windows เข้า Start Screen แล้วลาก Mouse ไปขอบจอด้านขวามือ (บนหรือล่างก็ได้) ให้ Charms Bar ขึ้นมาจากด้านขวา (หรือกด Windows + C ก็ได้ง่ายๆ)

image

แล้วเลือก Settings จะเจอ Menu “Power” อยู่ ก็เลือกได้ตามใจชอบครับ

image

 

Tips: สำหรับคนที่กังวลเรื่อง Color Profile ของจอภาพ Spyrder 3 Pro ยังคงทำงานได้ปรกติบน Windows 8 ครับ

IMG20121026193135

จาก Windows Experience Index รู้สึกคะแนน Graphics ตกลงไป ผมคิดว่าเป็นปัญหาของตัว Driver ที่อาจจะยังไม่เสร็จดี หรืออะไรสักอย่าง ><”

2012-10-26_192021

 

Tips: การลบไฟล์ใน Windows 8 ไม่มี dialog box "confirm" ขึ้นมาให้เป็นค่าเริ่มต้น คือลบแล้วมันไปอยู่ใน Recycle bin ทันที!! ถ้าอยากได้ dialog box "confirm" ขึ้นมาเหมือนเดิม (หลายคนไม่ชิน) ก็ตั้งตามภาพด้านล่างครับ

2012-10-27_211530

 

ตอนนี้ผมก็เล่าถึงประมาณนี้แล้วกันครับ ว่างๆ จะมาเล่าเรื่องอื่นๆ ต่อไป ^^