ได้ Xiaomi Mi AirDots มาใช้งานประมาณ 1 เดือน ก็เลยคิดว่ารีวิวจากประสบการณ์ใช้งานจริงสักหน่อยว่าเป็นอย่างไรบ้าง
ผมจะเขียนเป็นข้อ ๆ ไปน่าจะดีกว่า ชอบและไม่ชอบจะปน ๆ กันไป
- ตัวนี้ได้ราคามาประมาณ 1,2xx บาทเห็นจะได้ ฝากร้านเค้าหิ้วมาจากจีน
- ในกล่องบรรจุภัณฑ์มีจุกหูฟังสำรองมาให้พร้อมกับ USB to micro USB สำหรับชาร์จ ที่เป็นสายเล็ก ๆ มาให้พร้อมใช้งาน
- ตัวที่ได้เป็นสีขาว ตัวหูฟังตอนแรกคิดว่าจะสกปรกง่าย พอใช้ไป ก็พอไหว ไม่แย่มาก
- หูฟังเป็นแบบ In-Ear ตัวหูฟังกระชับกับหูดี ใส่แล้วไม่หลุดง่าย แต่ขนาดที่มันเล็กไปหน่อย การถอดใส่ เข้า-ออก ลำบากพอสมควรเพราะมือมักไปโดนตัว touch control ทำให้หยุดเล่นเพลงได้ง่ายมาก ก็รำคาญพอสมควร
- กล่องใส่เบากว่าที่คิดไว้ ขนาดกำลังดีใส่กระเป๋าเสื้อได้ กระเป๋ากางเกงก็พอไหว โดยภายในช่องใส่หูฟังเป็นแม่เหล็กช่วยดูดหูฟังลงกล่องพร้อมยึดกับกล่องไม่ให้หลุดออกมา
- เปิดกล่องเอาหูฟังใส่หูแล้ว pair เสียงพูดเป็นภาษาจีน และเปลี่ยนไม่ได้ แรก ๆ ก็รำคาญ หลัง ๆ เริ่มชิน
- การชาร์จให้แบตเตอรี่ที่หูฟังเต็มจากตัวกล่องจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง สำหรับด้านความจุของแบตเตอรี่ที่ตัวหูฟังรองรับการฟังเพลงได้ประมาณ 4 ชั่วโมง และความจุของแบตเตอรี่ที่ตัวกล่องรองรับชาร์จได้ประมาณ 12 ชั่วโมง
- ตัวหูฟังซ้าย-ขวาอิสระจากกันแบบ True Wireless อยากใช้ข้างเดียวก็ได้ หรือทั้งสองข้างก็ได้ จากประสบการณ์ที่ใช้จะ pair ข้างขวาเป็นหลัก ส่วนข้างซ้ายจะมาต่อกับข้างขวาต่ออีกทีหนึ่ง
- การฟังเพลง ด้วยความที่ใช้ Sony Xperia XZ1 ที่เป็น Bluetooth 5.0 เช่นเดียวกัน พอใช้ไปแล้วเปิดเชื่อมต่อ มักจะเจอเหตุการณ์เสียงขาด ๆ หาย ๆ อยู่เสมอ ในสภาพแวดล้อมทั้งบนรถไฟฟ้า หรือใน Taxi ระหว่างการเดินทาง แม้แต่นั่งทำงานอยู่ก็ยังเจออยู่บ้าง และหากเจอหนักมาก ๆ บางครั้งหลุดหายไปเลยก็มี ทางแก้ไขที่ทำ ณ ตอนนี้คือ เปิด-ปิดใหม่ บางครั้งต้องเปิด-ปิดซ้ำ 3-4 รอบถึงจะกลับมาเสถียร และเป็นอาการที่เจอได้ทุกวันจนทำใจแล้ว
- ระยะทำงานของมันกับมือถือถ้าต่อกันได้แล้วประมาณ 8 – 10 เมตรเห็นจะได้
- คุณภาพของไมค์โครโฟนอันนี้สอบตกแทบใช้งานไม่ได้เลย พอจะโทรศัพท์ต้องเปลี่ยนมาใช้ผ่านมือถือเอาแทน ตัวหูฟังให้คุณภาพเสียงส่งให้ผู้ฟังปลายทางได้แย่มาก จับใจความได้ลำบาก
- คุณภาพเสียงที่ได้ ก็พอไปวัดไปวาได้ ไม่ได้ดีมากหรอก มีเบสพอตัว กลางกับแหลมก็พอไหว
- การควบคุมผ่าน touch control ทำได้ 4 แบบ ซึ่งบางครั้งก็ลำบากในการใช้งาน ด้วยขนาดที่เล็กของมันตามข้อข้างต้น
- 1 tap คือ เล่นเพลง, หยุดเพลง หรือรับสาย
- 2 tap คือ ใช้ voice assistant
- tap ค้าง ประมาณ 3-5 วินาที ไว้คือตัดสายที่กำลังโทรเข้ามา
- tap ค้าง ประมาณ 10 วินาทีคือปิด
จุดสำคัญที่สร้างความรำคาญที่เป็นจุดใหญ่คือ อาการเสียงขาด ๆ หาย ๆ ที่เจอบ่อย เวลาอารมณ์กำลังดี ๆ แต่เจอเสียงขาด ๆ หาย ๆ จนทำให้อารมณ์เสียก็มี ด้วยความที่ผมมี Sony SBH56 ที่เป็นชุดหูฟัง Bluetooth ซึ่งใช้งานมาก่อนหน้านี้ ก็ไม่เจอมากมายขนาดนี้
สรุป ราคาประมาณพันกว่าบาท กับอะไรประมาณข้างบน ก็คงบ่นอะไรมากไม่ได้ คุณภาพก็ตามราคากันไป ถ้ายอมรับข้อเสียมันได้ ก็ถือว่าไม่แพง คุ้มค่า แต่ถ้ารับไม่ไหว นี่แทบจะโยนทิ้ง (╯°□°)╯︵ ┻━┻