Review: adonit Jot Mini

วันนี้มาเล่าเรื่องการใช้งาน adonit Jot Mini ให้ฟังกันสักหน่อยนึง แต่ก่อนอื่นอยากให้ทราบก่อนว่า adonit Jot Mini เป็น 1 ใน 5 ของสินค้าในกลุ่ม adonit Jot (ณ. วันที่ 10 ก.ค. 2012)

ผมได้ adonit Jot Mini (ตัวสีฟ้าตรงกลางในรูปด้านล่าง) จากร้าน Gadgetrend สาขา The Nine ถ.พระราม 9

DSC_0025

Jot Mini เปิดตัวในงาน CES 2012 เมื่อต้นปีที่ผ่านมาครับ และเริ่มวางขายประมาณเดือน ก.พ. มีผู้สนใจหาซื้อมาใช้เป็นจำนวนมากครับ เพราะแปลกใหม่ และแตกต่างจาก Stylus ตัวอื่นๆ ในท้องตลาด แต่จะแตกต่างอย่างไรเรามาดูกัน

DSC_0081

ตัวเนื้องานนั้นวัสดุโดยรอบของด้ามปากกา Jot Mini ทำจากอลูมิเนียมขัดด้านทำให้จับกระชับมือดีแม้จะมีขนาดเล็ก ด้วยขนาดของ Jot Mini เพียง 5.5” ซึ่งเหมาะสำหรับพกพาใส่กระเป๋ากางเกงคู่กับมือถือตัวเก่งของท่าน หรือแม้แต่ Tablet รุ่นเล็กๆ เองก็ตามที พกคู่กันก็ดูไม่เป็นภาระเท่าไหร่

DSC_0094

ตัวปากกานั้นมีฝาปิดที่สามารถหมุนเก็บที่ปลายอีกด้านนึงได้เป็นวัสดุชนิดเดียวกับตัวด้าม ทำให้รู้สึกเข้ากันได้ดีและแข็งแรงมาก

โดยตัวส่วนหัวของปากกา Jot Mini ที่สัมผัสกับหน้าจอนั้นจะมีแผนวงกลมใสยึดอย่างหลวมๆ ให้สามารถขยับได้กับตัวหัวปากกาที่เหมือนเข็มหมุนไว้ ซึ่งสามารถที่จะโยงไป-มาได้อิสระเพื่อให้แผ่นวงกลมตรงกลางยังคงสัมผัสบนตัวหน้าจอได้ในระนาบเดิมตลอดเวลาแม้จะเอียงตัวปากกาทำมุมเหมือนเราเขียนในสภาวะปรกติ

DSC_0089

การออกแบบให้ตัวหัวปากกาที่มีแผ่นวงกลมใส โดยตรงกลางของแผ่นวงกลมใส่มีวัสดุคล้ายโลหะฝั่งอยู่เพื่อนำไปทำให้สนามแม่เหล็กไฟฟ้าบนจอ capasitive touch screen นั้นตกลงบริเวณที่เรานำไปสัมผัส โดยผมลองถอดแผ่นวงกลมดังกล่าวออกเหลือแต่หัวปากกาล้วนๆ จะไม่สามารถใช้งานกับหน้าจอ capacitive touch screen ได้

ซึ่งปลายปากกาเป็นเข็มหมุดแบบนี้นั้น ทำให้เรามองเห็นว่าเรากำลังสัมผัสหรืออยู่ในช่วงใดของหน้าจอในจุดที่เล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งปรกติแล้ว stylus รุ่นที่มีขายโดยทั่วไปจะใช้การเรียนแบบนิ้วมือซึ่งจะมีหน้าสัมผัสและจุดที่ใหญ่คล้ายๆ นิ้วมือเรา แต่ด้วยการออกแบบของ Jot Mini นั้น ทำให้เราเขียนบนหน้าจอ capacitive touch screen ที่รับการสัมผัสบนจุดที่ใหญ่กว่าได้แม่นยำกว่าเดิมมาก ซึ่งเหมาะมากสำหรับการใช้งานที่ต้องการความแม่นยำในการเขียนสูงๆ เช่นกันวาดรูป รีทัชภาพต่างๆ ที่ต้องกรีดตัวแปรงทาสีบนช่องว่างแคบๆ ได้ดีขึ้น

สำหรับตัวแผ่นวงกลมใสที่หัวนั้นสามารถถอดเปลี่ยน และยังมีอะไหล่สำรองซึ่งต้องซื้อแยกต่างหากขาย จึงมั่นใจได้ว่าถ้าแผ่นวงกลมนี้หายไปก็ไม่ต้องซื้อด้ามใหม่ทั้งหมดแต่อย่างใด

DSC_0096

ที่ด้านปลายด้ามอ้างแบบเป็น Clip สำหรับหนีบที่กระเป๋าเสื้อหรือกระเป๋ากางเกง แต่น่าจะเหมาะกับกระเป๋ากางเกงมากกว่า เพราะกระเป๋าเสื้อมันตื้นไป

ในกลุ่มของสินค้า adonit +Jot นั้นนอกจาก Jot Mini แล้วยังมี Classic, Pro, Flip และ Touch อีกด้วย (แต่ที่นำเข้ามาขายในไทยตอนนี้มี Pro, Mini และ Flip)

ข้อแตกต่างของทั้ง 5 รุ่นมีดังนี้

  • adonit Jot Classic (http://adonit.net/product/jot)
    Feature_32
    รุ่นนี้เป็นรุ่นแรก ยังไม่มีลูกเล่นใดๆ นอกจากใช้เป็น stylus ที่วาดได้แม่นยำขึ้นและแปลกใหม่กว่าในท้องตลาด
  • adonit Jot Mini (http://adonit.net/product/jot-mini-2)
    P3284
    สรุปง่ายๆ ว่าเป็นรุ่นขนาดย่อของ Jot Classic มี Clip หนีบกระเป๋าได้ พกพาสะดวก
  • adonit Jot Pro (http://adonit.net/product/jot-pro)
    Feature_38
    รุ่นที่เพิ่มเติมคุณสมบัติจากรุ่น Classic ซึ่งลักษณะและรูปร่างไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ น้ำหนักเพิ่มมากขึ้นเล็กน้อย
    – เพิ่ม MAGNETIC CLING (แม่เหล็ก) เพื่อให้ดูดติดกับตัว Tablet หรือพื้นวัสดุที่เป็นโลหะได้
    – เพิ่ม RUBBER GRIP เพื่อให้จับถนัดมือมากขึ้น
  • adonit Jot Flip (http://adonit.net/product/jot-flip)
    Best-of-Both-Worlds_Small1
    รุ่นที่เพิ่มเติมคุณสมบัติจากรุ่น Classic
    – เพิ่มปากกาเข้ามาทำให้หน้าตานั้นแตกต่างจาก Classic อยู่พอสมควร และด้วยการเพิ่มปากกาเข้ามา ทำให้น้ำหนักเพิ่มมากขึ้นพอสมควร เพราะมีไส้ปากกาขนาดใหญ่อยู่ด้านใน
    – เพิ่ม MOBILE CLIP สำหรับใช้เหน็บที่ประเป๋าเสื้อ
    – เพิ่ม RUBBER GRIP เพื่อให้จับถนัดมือมากขึ้น
  • adonit Jot Touch (http://adonit.net/product/jot-touch)

    รุ่นล่าสุดที่เพิ่มเติมความสามารถจากรุ่น Classic เข้ามา
    – มีปุ่ม shortcut ที่ปากกา 2 ปุ่มสำหรับสั่งงาน App เพื่อเรียก shortcut บน App ขึ้นมาใช้โดยไม่ต้องเปลี่ยนตำแหน่งที่เรากำลังวางมือไปทัชส่วนของเมนูไปๆ มาๆ อีก โดยใช้การสั่งการผ่าน Bluetooth
    – ตัวปากกาทำงานด้วยแบตเตอร์รี่ภายใน ทำให้มี USB Charger เพิ่มเติมเข้ามาด้วย
    – ระบบ DAMPENING TIP ที่จะเพิ่มความยืดหยุ่นในการสัมผัส คล้ายๆ กับสปริงตัวเล็กๆ ทำให้ได้ความรู้สึกเหมือนเขียนอยู่บนกระดาษ

เว็บอ้างอิง http://www.adonit.net

ขอบคุณร้าน Gadgetrend สาขา The Nine ถ.พระราม 9 ที่ให้ลองตัวปากกา Jot Mini จนผมเสียเงินซื้อจนได้ ฮา …. ><”\

ราคาจำหน่าย (ณ.วันที่ 19 ก.ค. 2555)

  • adonit Jot Mini: 1,090 บาท
  • adonit Jot Pro: 1,190 บาท
  • adonit Jot Flip: 1,490 บาท

เอาภาพจากกล้อง HTC One X มาให้ดู

ผมได้ไปงาน Dinner เล็กๆ ของ HTC มาเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาครับ เป็นงาน HTC One Gathering Dinner จัดกันเล็กๆ ที่ Sivatel Bangkok (แอบหลงตอนไป)

โดยรวมแล้วในงานมี 3 ตัวครับ แต่ผมถูกใจภาพจากกล้อง HTC One X มากที่สุดและได้เล่นเยอะที่สุด ส่วนตัว V และ S ผมเล่นไม่เยอะครับ แต่ทุกตัวคุณสมบัติตัว OS ไม่ต่างกัน ต่างกันที่ตัว spec ของ H/W และหน้าจอ ซึ่ง HTC One X ดูดีสำหรับผมมากๆ วัสดุสวยและดีจริงๆ ในงานโชว์ทำตกพื้นให้ดูก็หยิบมาเล่นต่อได้ ซึ่งน่าสนใจๆ มากสำหรับคนชอบอะไรทนไม้ทนมือ

สำหรับตัวกล้องนั้น One X ให้มา 8Mpx ครับ ทำ ISO ได้สูงถึง 1600 แต่ปรับได้จริงๆ ประมาณ 800 (คิดว่ากล้องถ้าตั้ง Auto มันจะปรับเพิ่มได้อีก) ซึ่งสำหรับกล้องมือถือด้วยเนี่ย ไม่ธรรมดา ภาพในที่แสงดีๆ HDR สวยเลย แต่แอบช้านิดๆ แต่ถ่ายออกมาสวย (ตอนถ่ายในที่แสงน้อยต้องมือนิ่งๆ สักหน่อย)

ขอไม่พูดอะไรมากครับ ผมขอเอาภาพจากกล้องมือถือตัวนี้มาให้ชมกันเล็กๆ แล้วกันครับ

ปล. ภาพบางภาพผมถ่ายเองบ้าง คนอื่นถ่ายบ้าง แต่ไม่รู้ใคร ><” ขออภัยด้วยที่ไม่ได้กล่าวถึงคนถ่ายรูปบางภาพ เพราะอยู่ในเครื่องมาก่อนถึงผมแล้ว เลย copy มาฝากด้วย

ปล2. อยากดูภาพ Original คลิ้กที่รูปผมอัพไฟล์ต้นฉบับจากกล้องให้แล้วครับ

IMAG0099c

f/2 speed 1/20s ISO-500
Original: 3264x1840pixel (8Mpx) to 1024x577pixel (via Bicubic Sharper)

IMAG0118

f/2 speed 1/15s ISO-1600
Original: 3264x1840pixel (8Mpx)

Read more

Mini Review – Ocz Octance SATA3 128GB แรงมว้ากกกกกกกกก!!!!

เมื่อวานผมไปถอย Ocz Octance SATA3 (6Gpbs) 128GB จากร้าน memorytoday.com มาใส่เครื่อง Lenovo ThinkPad T420 ของผมเอง เหตุที่ใช้ Ocz Octance แทน Ocz Vertex3 เพราะ Indilinx Controller นั้นไม่มีปัญหาเรื่องเมื่อพื้นที่ใกล้เต็มแล้วจะทำงานช้าลง (แต่ก็ยังเร็วกว่า HDD) เลยตัดสินใจตัวนี้มาแทน แม้ write mode จะช้ากว่าเกือบเท่าตัวก็ตาม

IMG-20120321-00610

Spec คราวๆ ก็

  • Interface: SATA 6Gbps / Backwards Compatible 3Gbps
  • Indilinx Infused™
  • TRIM Support
  • 512MB Onboard Cache
  • Max Read: up to 470MB/s
  • Max Write: up to 210MB/s
  • Random Write 4KB: 18,000 IOPS
  • Random Read 4KB: 35,000 IOPS

เลยเอามาทดสอบดูเล็กๆ ตามด้านล่างครับ ความเร็วก็ประมาณใน Spec เลยทีเดียว

2012-03-22_120438

2012-03-22_120603

2012-03-22_123513

ทดสอบ WD My Book/Passport บน USB 3.0 เทียบกับ eSATA 3Gbps

เอาผลการทดสอบของปะทะกันของคู่ความแรงในอดีตและความแรงในปัจจุบันของ External HDD ที่คนทั่วไปมักซื้อใช้กัน มาลองทดสอบกันเล็กๆ

อดีตของแรงพกความสามารถในการรองรับ port ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันที่ยังคงแรงอยู่อย่าง WD My Book Home Edition 1TB ที่เชื่อมต่อได้ 3 แบบคือ USB 2.0 (480Mbps), Firewire 400 (400Mbps) และ eSATA (1.5/3Gpbs) ท้าสู้กับมวยสดใหม่อย่าง WD My Passport Essential 500GB และ WD My Book Essential 2TB ที่มี port ความเร็วสูงอย่าง USB 3.0 (5Gbps)

Bang Na-20120212-00555

ทดสอบ USB 3.0 ผ่าน Express Card/34 USB 3.0 แบบ 2 port ใช้ USB 3.0 Controller ของ NEC/Renesas รุ่น uPD720202

Bang Na-20120212-00554

ผลการทดสอบนี้อาจจะไม่ถึงที่สุดหรือบทสรุป เป็นการนำค่าผลการทดสอบที่ดีที่สุด 3 ครั้งของ HDD External ทั้ง 3 ตัว

ลองดูกันได้เลย

WD My Book Home Edition 1TB via eSATA

2012-02-21_204608

WD My Passport Essential 500GB via USB 3.0

2012-02-21_204129

WD My Book Essential 2TB via USB 3.0

2012-02-21_203736

มาทดสอบปิดท้ายกันสักนิดกับการ copy ไฟล์แข่งกัน

ไฟล์คือ SNSD 120218 KBS2 MUSIC BANK IN PARIS SNSD All Cut Moonlight.ts

ขนาดประมาณ 3.16GB

WD My Book Home Edition 1TB via eSATA

ผลการทดสอบ

  • Copy File 46MB/s
  • Test File 98MB/s

2012-02-21_211740

WD My Passport Essential 500GB via USB 3.0

ผลการทดสอบ

  • Copy File 44MB/s
  • Test File 67MB/s

2012-02-21_210948

WD My Book Essential 2TB via USB 3.0

ผลการทดสอบ

  • Copy File 45MB/s
  • Test File 85MB/s

2012-02-21_211207

จากผลการทดสอบทั้ง 3 ผลจะเห็นว่า eSATA นั้นทำงานได้เร็วพอๆ กับ Internal SATA ปรกติอยู่แล้ว แต่ผลของการทำงาน USB 3.0 ก็ดีไม่แพ้กันมากมายนัก ถ้าในด้านการทำงานถือว่าใกล้เคียงกันอย่างมาก เพราะฉะนั้นการนำ USB 3.0 มาใช้ทำงานบน External แทน SATA 3Gbps จึงไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป หลังๆ ผมทำงานไฟล์รูปภาพใหญ่ๆ แบบ TIFF ขนาด 50-100MB บน USB 3.0 อยู่พอสมควร ยังไม่เคยมีปัญหา Interface หลุดตอนทำงานแต่อย่างใด ซึ่งตรงนี้อาจจะต้องดูที่ตัว Chip USB 3.0 Controller ควบคู่กันไปด้วย เพราะในผลการทดสอบต่างประเทศ Chip USB 3.0 Controller บางตัว โดยเฉพาะรุ่นเก่าๆ หรืออกมารุ่นแรกๆ จะมีความไม่นิ่งอยู่บ้าง แต่แก้ไขได้ด้วยการ update ตัว Driver ก็หายครับ (เหนื่อยหน่อยตอนแรก แต่พอนิ่งแล้วสบายเลย) เพราะฉะนั้นถ้าสรุปง่ายๆ ก็คือ USB 3.0 ในตอนนี้ถือว่าทำงานได้ให้ความเร็วเต็มเพดานของความเร็วของ HDD ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ

Review – OCZ Nocti Series mSATA SSD 60GB

เรามาทำความรู้จักกับ mSATA กันก่อนดีกว่า โดยเจ้า mSATA หรือในชื่อ Mini-Serial ATA ในปัจจุบัน (ณ.เดือน ก.พ. 2012) ยังเป็นการใช้ประโยชน์จากการเชื่อมต่อของสล็อต mini PCIe connector (Mini PCI Express) บนตัว M/B ของตัว Notebook ที่ปรกติจะใส่ WiFi Card อยู่แล้ว ซึ่งใน Notebook มักจะมี 1 สล็อตเป็นปรกติเพื่อใส่ WiFi Card และในบางรุ่นจะมี 2 สล็อตเผื่อใส่ Card มาตรฐาน mini PCIe ซึ่งมักจะใส่พวก WWAN ที่เป็นการ์ดที่เพิ่มความสามารถในการเชื่อมต่อกับเครือข่าย 2G/3G หรือแม้แต่ WiMax (มีไว้เผื่ออนาคต) ซึ่งการทำแบบนี้ต้องมีมาตรฐานต่างหากจาก PCIe ก่อนหน้านี้ เพราะฉะนั้น Mini PCIe รุ่นเก่าจะไม่สามารถใช้งานได้

mSATA นั้นเพิ่งเริ่มต้นมีและประกาศเป็นทางการประมาณเดือนกันยายน 2009 โดยได้มีการเพิ่มเติมมาตรฐานใหม่ให้ใช้การสื่อสารข้อมูลแบบ Serial ATA ลงบนรูปแบบและสล็อตขนาดเล็กซึ่งผู้ผลิตเห็นตรงกันว่า mini PCIe เป็นคำตอบ ซึ่งก่อนหน้านี้มีมาตรฐานนี้อยู่บน Full PCIe อยู่ก่อนแล้ว โดยได้ประกาศลงใน Press Release ที่ 503.619.0563 SATA-IO to Develop Specification for Mini Interface Connector เพื่อเพิ่มให้สามารถใช้งานในอุปกรณ์ Notebook ขนาดเล็กที่มีพื้นที่ใส่ HDD 2.5” ได้จำกัดหรือไม่มีเลย โดยใช้ประโยชน์จาก SSD ที่ความเร็วขั้นต่ำขนาดเล็กโดยที่ 180MB/s สำหรับอ่านและเขียนที่ 70MB/s บน SATA 1.5Gbps, SATA 3Gbps และ SATA 6Gbps บนการ์ดหน่วยความจำขนาดเล็กคล้ายการ์ด WiFi หรือ WWAN

เพราะฉะนั้น mSATA ในตอนนี้นั้นใช้รูปแบบ connector ที่เหมือนกับ mini PCIe แต่ทั้งหมดแล้วไม่มีความเกี่ยวข้องกัน ซึ่งก่อนที่จะซื้อมาใช้งานนั้นแนะนำให้ตรวจสอบก่อนว่าเครื่องของคุณ mini PCIe สามารถใส่ mSATA ได้หรือไม่ด้วย

ซึ่งในช่วงปี 2010-2011 เป็นต้นมาก็มีหลายยี่ห้ออออกการ์ด mSATA ออกมา โดยหัวหอกคือ Intel ในช่วงต้นยังคงราคาแพงและไม่ได้รับการตอบรับที่ดีนัก และต่อมาก็มีคู่แข่งในตลาดเพิ่มมากขึ้นอย่างเช่น Samsung หรือ Toshiba และที่เราจะนำมาแนะนำในวันนี้คือ OCZ รุ่น Nocti Series mSATA SSD 60GB โดยผมได้ OCZ Nocti Series mSATA SSD 60GB จาก MemoryToday.com มานานมาก ไม่ได้เขียนขึ้นสักที วันนี้เลยได้เวลาเอามาให้ดูกันว่ามันมีดีอะไร หลายๆ คนถึงอยากได้เจ้าตัวนี้กัน เหมาะมากสำหรับคนที่ใช้ Notebook ขนาดเล็กที่มี HDD อยู่ก่อนแล้ว และมีสล็อต mSATA ว่างอยู่ เรามารูปแบบของตัวการ์ดกันดีกว่า

DSC_1247

ตัวการ์ดนั้นมีขนาดไม่ใหญ่มากนักเมื่อเทียบกับขนาดของ SSD ตัวอื่นๆ ในท้องตลาด

DSC_1248 DSC_1245

เมื่อใส่คู่กับ RAM SO-DIMM DDR3 บน M/B แล้วลองเทียบดูจะเห็นได้ว่ามีขนาดเล็กกว่าอย่างเห็นได้ชัด

DSC_1242

สำหรับ Notebook ที่นำมาทดสอบนั้นคือ Lenovo ThinkPad T420 4180-RG8 ที่ใช้ Chipset Mobile Intel QM67 Express และตัวของ SSD Nocti นั้นใช้ Storage Controller Sandforce รุ่น SF-2100

2012-02-19_232819

รองรับการทำงานแบบ TRIM ที่จำเป็นสำหรับคนที่ใช้ SSD

2012-02-19_234550

ทดสอบผ่านโปรแกรม HD Tune Pro 5.0

ผลการทดสอบสำหรับอ่านข้อมูล ดูแล้วยังไม่ค่อยนิ่งเท่าไหร่นัก แต่โดยรวมถึงว่าเร็วในระดับที่น่าพอใจสำหรับการ์ดเล็กขนาดนี้ โดยค่าเฉลี่ยการฟจะวิ่งอยู่ที่ประมาณ 160MB/s ซึ่งก็ยังคงเร็วกว่า HDD 7200rpm ในท้องตลาดทั้งหมดอยู่ดี (ปรกติ HDD 7200rpm อยู่ที่ค่าเฉลี่ย 100-120MB/s) แต่ส่วนที่ทำได้ดีอย่างเห็นได้ชัดคือ Access Time นั้นเร็วกว่า HDD 7200rpm แบบไม่เห็นฝุ่นเลย โดยปรกติ HDD 7200rpm นั้นจะอยู่ที่ประมาณ 11-9ms แต่เจ้าตัว SSD ตัวนี้อยู่ที่ 0.15ms ซึ่งเร็วมากๆครับ

2012-02-19_235051

เรามาดูเรื่องการคัดลอกและส่งไฟล์แบบ Sequential นั้นทำได้ตามคุณสมบัติที่วางไว้คือ ~250MB/s

2012-02-19_234536

เรามาดูค่า Access Time แบบละเอียดๆ จะเห็นว่าไฟล์ขนาดเล็กๆ นั้นทำได้ค่อนข้างใช้ได้อยู่ที่ประมาณ 0.1-0.2ms สำหรับไฟล์ไม่ใหญ่มากนัก

2012-02-19_234138

2012-02-19_234638

DSC_1241

กล่าวโดยสรุป สำหรับคนที่มี Notebook ที่มี HDD อยู่แล้ว และมีสล็อต Mini PCIe ที่สนับสนุน mSATA เหลือว่างอยู่ ผมแนะนำให้ลองหามาใช้ดูครับ ส่วนตัวแล้วนั้นรองรับการใช้งานสำหรับในบรรจุตัว OS เพื่อใช้ทำงานเป็นหลัก คุณจะได้รับความเร็วที่พอใจมากๆ เป็นอย่างดีโดยไม่ต้องเปลี่ยน HDD ตัวเก่าเพื่อใส่ SSD ขนาด 2.5” ตัวใหม่ลงไปแต่อย่างใดครับ

ขอบคุณ MemoryToday สำหรับ SSD ตัวนี้ที่ให้มาทดสอบครับ

OSZ P/N NOC-MSATA-60G
Technical Spec Details

  • MLC NAND Flash
  • Native TRIM support
  • Seek Time: .1ms
  • Ultra-Slim Design 30 x 50 x 3.5mm
  • Lightweight: 6g
  • Operating Temp: 0°C ~ 70°C
  • Ambient Temp: 0°C ~ 55°C
  • Storage Temp: -45°C ~ 85°C
  • Low Power Consumption: 1.7W Active, 0.5W Idle
  • Compatible with Windows XP, Vista, 7 32-bit and 64-bit
  • MTBF: 2 million hours
  • 3-Year Warranty

Technical Spec Performance

  • Max Read: up to 280 MB/s
  • Max Write: up to 260 MB/s
  • Random Write 4k: 12,500 IOPS

http://www.ocztechnology.com/ocz-nocti-msata-ssd.html