รอบที่แล้ว Seasons Change NO#4682 มารอบก็นี้สายลับจับบ้านเล็ก Limited Edition NO#1564 ครับผม
ต้องเอาออกจากกล่องก่อนครับ จะเป็นกล่องอีกชั้นคล้าย ๆ กับกล่องข้าว
ด้านในก็จะมีนามบัตรที่แนบมากับกล่องใส่แผ่นครับ
Human knowledge belongs to the world!
รอบที่แล้ว Seasons Change NO#4682 มารอบก็นี้สายลับจับบ้านเล็ก Limited Edition NO#1564 ครับผม
ต้องเอาออกจากกล่องก่อนครับ จะเป็นกล่องอีกชั้นคล้าย ๆ กับกล่องข้าว
ด้านในก็จะมีนามบัตรที่แนบมากับกล่องใส่แผ่นครับ
หลักจากสถานที่กักเก็บข้อมูลของเราเริ่มไม่พอ หมด DVD จะหลอดแล้ว เห็นว่าไม่ดีแน่ถ้ายังคิดจะ burn ใส่ DVD ไว้เพราะหาลำบากมาก ๆ วันนี้เลยตัดสินใจไปซื้อ “Western Digital My Book Premium ES Edition” ด้วยความที่มันสวยดี ดูดีมีชาติตระกูลมาก ๆ แต่ว่าตอนแรกกะว่าจะซื้อ Harddisk + External Enclosure แทน แต่คิดไปคิดมา ราคาก็ไม่แตกต่างกันมาก ซึ่งราคา Harddisk ก็ 3,000 ต้น ๆ กับค่ากล่องที่ดี ๆ หน่อยก็ 1,000 กว่า ๆ เลยเอาตัวที่เค้าสำเร็จมาดีกว่าอย่าง ๆ น้อย ๆ ก็ไม่ต้องกังวลกับเรื่อง Enclosure ที่ไม่มีคุณภาพ ราคาถูกแพงไม่สำคัญ เพราะราคาแพงก็ห่วยได้ (เจอมาแล้ว ใช้ได้ไม่ถึงเดือนพัดลมพัง อีกตัวซื้อมาใช้ไปได้อีก 2 เดือน power supply พัง)
กล่องสวยใช้ได้ มี Software อย่าง EMC Retrospect Express สำหรับ Backup ข้อมูลมาให้ แต่ผมใช้ ThinkVantage Rescue and Recovery ดีกว่า ของ Thinkpad เองใช้ง่ายกว่าเยอะ (แถมใช้มานานแล้ว)
ตัวนี้ ผมซัดมา 320GB รองรับทั้ง USB 2.0 กับ eSATA ซึ่งมีความเร็วตามทฤษฎีที่ 3 Gb/s สำหรับ M/B Desktop และ Notebook บางรุ่น ซึ่ง Desktop รุ่นใหม่ ๆ จะมี Port นี้ส่งข้อมูลรวดเร็วแบบเดียวกับใช้ SATA แท้ ๆ เลย ลดคอขวดได้มาก แต่คาดว่าจะไม่ได้ใช้ T_T (หวังว่าจะมีโอกาสได้ใช้มัน)
รองรับทั้ง Mac OS X และ Windows 2000/XP/Vista (แน่นอน) แล้ว Linux หล่ะ !!! ลองกับ Ubuntu 7.04 Desktop แล้วมองไม่เห็น -_-‘ ท่าทางต้องลงไม้ลงมือสักหน่อยแล้วงานนี้ -_-‘
Port ที่อยู่ด้านหลังก็มีแค่ 3 ช่องคือ Power, USB 2.0 และ eSATA ครับ
ภาพ Jupiter กับ Neptune (Notebook Harddisk 2.5″ + External Enclosure)
วิวสวย ๆ ของ Western Digital My Book Premium ES Edition
จากแบตตัวที่มากับเครื่องเป็น 7 Cell ซึ่งหนักและยื่นออกมาแล้วไม่ค่อยสวยแบบนี้ (หรือบางคนบอกว่าสวยไปอีกแบบ)
วันนี้ผมก็ได้แบบเรียบ ๆ สวยงามแบบนี้ครับ
ที่ผมอยากให้มันเรียบเพราะว่ามันถือได้สะดวกกว่า และถ้าแบบที่ยื่นออกมานี่ถือตรงแบตไม่ได้ครับ เพราะมันยึดด้วยร่องและตัวล็อคนิดเดียวเองกลัวหักแล้วเครื่องตกมาก ๆ เลยต้องถือตรงขอบด้านที่พับลงมาตรง Touchpad เอาแทน
วันนี้เลยได้ตัวใหม่มาเป็น 4 Cell ที่เล็กกว่าและเนียนเรียบเป็นเนื้อเดียวกับเครื่องครับ
ตอนนี้ผมเลยมีแบตทั้ง 2 ตัวคือ
ตัวหนาคือตัว code ที่ผมใช้อยู่ตอนนี้ครับ ส่วนตัวอื่น ๆ ก็เป็น code ที่เป็น option part หรือ spare part ตามแต่ละประเทศหรือแหล่งผลิตครับ แต่ละรหัสจะมีแหล่งผลิตแตกต่างกัน ส่วนใหญ่ Thinkpad จะใช้ Battery Cell จาก Sanyo และ Panasonic ครับ ส่วน Sony นี่ยังไม่เคยเจอ แต่เพื่อนผมบอกว่ามี -_-‘ ทั้งสองตัวก็ใช้คนละโอกาสกันไป แต่ที่แน่ ๆ หนักน้อยลงเหมือน 2.1kg จาก 2.35 kg ครับ ;)
จาก
ร่วมโปรโมตร : HighLight Dictionary (โปรแกรม ดิกชั่นนารี อังกฤษ ->ไทย ที่มีคำศัพท์ มากกว่า แสนคำ)
ผมได้รับอีเมลจะผู้พัฒนาโดยตรงเมื่อเช้านี้ ผมจึงนำมาแนะนำต่อครับ ;) ตอนนี้ก็ใช้อยู่สะดวกดีครับ
แนะนำไฮไลต์ดิกชั่นนารี
ไฮไลต์ดิกชั่นนารีเป็นพจนานุกรมอิเล็คทรอนิกส์ อังกฤษ-ไทย และ ไทย – อังกฤษ มีคลังข้อมูลบรรจุคำศัพท์จากพจนานุกรมอิเล็คทรอนิกส์ ถึง 3 เล่ม รวมกันกว่า 180,000 รายการ สมบูรณ์แบบด้วย ความหมาย , ประเภทของคำศัพท์ , คำย่อ , คำพ้องเสียง , คำเหมือน , คำไกล้เคียง , คำตรงข้าม, ตัวอย่างประโยค เป็นต้น
จุดเด่นหลักของไฮไลต์ดิกชั่นนารี คือความสามารถในการรับคำศัพท์เพื่อแปล โดยจะใช้การลากไฮไลต์ (Drag Mouse) คำศัพท์ที่ต้องการแล้วกดปุ่ม Windows Key + X , ปุ่มตรงกลางของเมาท์ หรือปุ่มอื่น ๆ ตามที่ตั้งค่าไว้ ไฮไลต์ดิกชั่นนารีจะแปลและแสดงผลโดยอัตโนมัติ ดังนั้นคุณไม่ต้องพิมพ์คำศัพท์ใหม่ หรือก๊อปปี้คำศัพท์แล้วมาวางในโปรแกรมอีกครั้ง
ไฮไลต์ดิกชั่นนารีสามารถใช้ร่วมกับโปรแกรมต่าง ๆ ได้ เช่น MS® Internet Explorer®, MS® Office, Adobe® Acrobat และอื่น ๆ อีกมากมาย เพียงแค่ลากไฮไลต์ (Drag Mouse) และกดปุ่มฮ๊อตคีย์ตามที่ค่าไว้ เพียงแค่นี้ไฮไลต์ดิกชั่นนารีจะแปล และแสดงความหมายของคำศัพท์นั้น ๆ ทันที
คุณสมบัติและฟังก์ชั่น (เวอร์ชั่น 2.50)
- เพิ่มฐานข้อมูลคำศัพท์ภาษาไทย-อังกฤษ กว่า 35,000 คำ รวมทั้งหมด(อังกฤษ-ไทย และ ไทย – อังกฤษ) กว่า 180,000 รายการ
- สามารถอ่านออกเสียงคำศัพท์ และตั้งค่ารูปแบบเสียงได้ (TTS : Text to Speech Technology)
- เคลื่อนย้ายหน้าต่างตามตำแหน่งเมาท์ได้
- เปลี่ยนหน้าตาใหม่ (borderless)
- สามารถรับคำศัพท์โดยใช้การลากไฮไลต์ (Drag Mouse) คำศัพท์ที่ต้องการแล้ว
- กดปุ่ม Windows Key + X หรือ Alt+X (สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ไม่มีปุ่ม Windows Key)ได้
- สามารถรับคำศัพท์โดยใช้การลากไฮไลต์ (Drag Mouse) คำศัพท์ที่ต้องการแล้วกด
- ปุ่มตรงกลางของเมาท์ ได้ (คุณสมบัตินี้ซับพอร์ตเฉพาะเมาท์ที่มีปุ่มตรงกลางหรือเป็นลูกล้อเท่านั้น)
- สามารถใช้งานร่วมกับโปรแกรมต่าง ๆ เช่น MS® Internet Explorer®, MS® Office, Adobe® Acrobat หรือโปรแกรมอื่น ๆ อีกมากมายได้ โดยคำศัพท์ที่จะแปลนั้นต้องใช้เมาท์ลากไฮไลต์ (Drag Mouse) ,คลิ๊กขวา และสั่งก๊อปปี้ได้
- สามารถพิมพ์คำศัพท์ และกดปุ่ม Enter เพื่อค้นหาความหมายแบบปรกติได้
- สามารถเลือกแบบตัวอักษร (Font) รวมถึงตั้งขนาด (Size) ในการแสดงผลได้
- สามารถเลือกเปิดโปรแกรมอัตโนมัติเมื่อปิดเครื่องได้
- สามารถตั้งค่าคำแนะนำการตัดอักขระท้ายคำอัตโนมัติเมื่อตรวจพบได้
- สามารถแสดง สี/เน้นคำ ในส่วนของคำแปล เพื่อให้อ่านได้ง่ายยิ่งขึ้นได้
- สามารถตั้งค่าเพื่อให้ ทูลทิปส์ แสดงคำเปลเมื่อเม้าท์ชี้ในช่องแสดงความหมายได้
- สามารถคลิ๊กแปลแบบต่อเนื่องได้ (เฉพาะภาษาอังกฤษ)
- สามารถแสดงรายการคำศัพท์ที่เคยค้นหาก่อนหน้านี้ (history) ได้
- สามารถแสดงคำศัพท์อื่น ๆ ที่ไกล้เคียงได้
- สามารถขยาย/ย่อ/ล๊อก หน้าต่างได้
รายละเอียดเพิ่มเติม : http://nextproject.net/dictionary
มีข้อผิดพลาดในการใช้งานก็แจ้งให้กับผู้พัฒนาทราบบ้างนะครับ ผมว่าน่าจะช่วยให้การพัฒนาตัวโปรแกรมนั้นมีเสถียรภาพมากขึ้นครับ
คราวนี้มาเขียนบอกเล่าหนังที่ไปดูสด ๆ ร้อน ๆ วันนี้ตอนเที่ยง แบบว่ารอหนังเรื่องนี้มานานมาก ตั้งแต่มันโปรโมตรแรก ๆ เลย ใครที่ยังไม่ไปดูแนะนำให้ไปดูครับ สนุกมาก สิ่งแรกที่ควรทำก่อนเข้าโรงคือ เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย ถ้าเป็นไปได้ระหว่างดูพยายามอย่ากินน้ำเยอะ ปวดท้องเข้าห้องน้ำกลับมาจะงง ว่ามันไปถึงไหนแล้วแบบเพื่อนผม "เราเตือนท่านแล้ว"
บอกเล่านี่ผมจะไม่สปอย นั้นหมายความว่า จะไม่มีเนื้อเรื่องในหนังแบบจะ ๆ ให้เสียอารมณ์ครับ เรื่องราวมันก็แนว ๆ ด้านดีด้านร้ายที่ต่างฝ่ายต่างแยกชิงสิ่งของสิ่งหนึ่งเหมือนกัน โดยฝ่ายหนึ่งต้องการเอาไปใช้เพื่อทำลายล้าง ส่วนอีกฝ่ายก็มาชิงเพื่อเอาไปทำลายทิ้งเสีย โดยรวมแล้วหนังให้ความสนุกในคิวต่อสู้ได้ดี ไม่อืดเกินไป มุมกล้องโอเคเลย แต่กล้องมันตัดสลับไปมาบ่อย และไม่นิ่งทำให้อาจจะดูไม่ชัด หรือมึนหัวได้ และด้วยองค์ประกอบของตัวหุ่นยนต์ต่าง ๆ นั้นมีรายละเอียดมากกว่าในการ์ตูนเยอะมาก ทำให้อาจสับสนได้ว่าตัวไหนเป็นตัวไหน ยิ่งฝ่ายทำลายแล้วนี่มันคล้าย ๆ กัน อาจสับสนได้ แต่เรื่องการออกแบบตัวละครหุ่นยนต์ทำได้เท่มาก ๆ ส่วนฉากหวาบหวิวก็มีบาง แต่ไม่มาก น้อยกว่าไอ้แมงมุมหน่อย
ซึ่งในเรื่องมีข้อคิดดี ๆ หลายส่วนอย่าง "ถ้าไม่เสียสละ ชัยชนะก็ไม่เกิด" เป็นการย้ำตัวหนังแนวฮีโร่ได้อย่างดี และทุก ๆ เรื่องก็ดำเนินเรื่องตามแนวคิดนี้ซึ่งหนังทำออกมาได้ดีมาก
ต่อมาก็เรื่องมุขตลกนั้นทำได้ดี และน่าเอ็นดูมากในบางช่วงบางตอนเสียด้วยซ้ำไป ใครนำเด็กเข้าไปดูถือว่าคุ้ม แม้จะมีฉากหวาบหวิวนิดๆ หน่อยๆ แต่พอรับได้ไม่โฉ่งฉ่างเกินไป
ส่วนเรื่องงานภาพของคุณภาพงาน CG ผมให้ 9.5 เลยจาก 10 เนียนมาก แต่ที่ตัดออกไป 0.5 เพราะรายละเอียดมันเยอะมาก จนบางครั้งฉากสู้ตะลุมบอลกันนี่มันมองไม่รู้เรื่องเท่าไหร่ กลายเป็นกองเหล็กไปเสียในบัดดล แต่ฉากอื่น ๆ ทั้งฉากแปลงร่างไปมาระหว่างยานพาหนะต่าง ๆ มาเป็นหุ่นยนต์ทำได้เท่โคตร จนคิดว่ามันมีอยู่จริง ยิ่งฉากเครื่องบินแปลงเป็นหุ่นยนต์นี่ทำให้เชื่อได้สนิทใจว่ามีจริง แบบในหนังโฆษณาที่ออกทางสื่อต่าง ๆ ไปแล้ว
โดยรวมเนื้อหา อาจจะดูไม่สมเหตุสมผลไปบ้าง แต่มีการนำเข้าเรื่องที่ดี พอทำให้คนที่ไม่ได้ดูการ์ตูน Transformers มาก่อนเข้าใจเนื้อเรื่องในหนังได้ไม่ยากนัก ประกอบกับมันเป็นหนังฮีโร่ยุค 10 – 20 ปีก่อนซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกที่นำมาทำเป็นหนังในยุคนี้มันจะดูขัด ๆ แต่ถ้าเราเอาเรื่องพวกนี้ออกไป ผมว่าหนังทำออกมาได้น่าสนใจ และคาดว่ามีภาค 2 แน่นอน รอดูได้เลย
งานนี้ผมให้ 9 จาก 10 ครับ ที่หายไปเพราะเนื้อเรื่องของตัวละครบางตัวที่น่าจะเด่นกลับลดลงไปอย่างน่าเสียดาย เช่นหุ่นบางตัวน่าจะเก่งกว่านี้ หรือบางตัวมันน่าจะช่วยเพื่อนมันได้บ้างทั้ง ๆ ที่มันก็มีความสามารถแบบนั้นอยู่แล้ว
ไว้สักอาทิตย์หน้าค่อยมาเขียนต่อดีกว่า เพราะหนังเพิ่งเข้าฉายวันนี้
แนะนำให้ไปดูครับ สนุกมาก และอีกเรื่องอย่าง Dia Hard 4.0 นี่ก็น่าดู ไว้มีเวลาว่าง ๆ ก่อนแล้วกัน ;)