เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ตอนแรกผมก็ไม่เข้าใจนะ แต่พอได้อ่านเยอะๆ ได้คุย ได้พบกับคนที่เข้าไปร่วมร่างมาตรฐานพวกนี้อยู่บ้างแล้วก็เริ่มจะเข้าใจ และรู้สึกถึงความจำเป็น และผลประโยชน์มหาศาลในการทำมาตรฐานเปิดเหล่านี้ในอนาคต มันเป็นเรื่องธุรกิจเสียเป็นส่วนใหญ่ ทำให้มาตรฐานเปิดแต่ละอย่างกว่าจะออกมาได้ใช้เวลานานมากๆ ทีเดียว แต่ผลสุดท้ายคนที่ได้ประโยชน์ก็คือทุกกลุ่มของสังคมนั้นแหละ
ปัจจัยที่ทำไมไม่ทำเสียตั้งแต่ตอนนั้น คงเพราะการเริ่มต้นพัฒนาในอดีต มันไม่ได้มีการติดต่อประสานงานกันระหว่างหน่วยงานต่างๆ บริษัท หรือประเทศที่เกี่ยวข้องกันมากนัก แถมด้วยความที่อยู่ห่างไกลกันมาก บางประเทศคนละมุมโลก และกว่าที่มนุษย์จะพัฒนาการ ในการเดินทาง กว่าจะทำให้ข้อมูลส่งไปและกลับได้รวดเร็ว กว่าจะคุยกันรู้เรื่องอีก กว่าจะส่งของเอาไปทดสอบ จนเอาไปค้าขายแลกเปลี่ยนกัน มันไม่ได้ทำได้สะดวกสบายและรวดเร็วอย่างปัจจุบัน
ดังนั้นนวัตกรรมต่างๆ วิธีคิด มาตรฐาน แนวทางการใช้งานและส่วนใช้งานที่เกี่ยวข้องกับคนที่ใช้งาน ซึ่งมันก็รวมถึงประเพณี วัฒนธรรม ความคุ้นชิน ผลประโยชน์ ฯลฯ ก็ได้พัฒนาจากอดีต จนขึ้นสู่ขีดสูงสุดจนยาก หรือไม่สามารถกำหนดเป็นสากลได้อย่างง่ายดายนัก
แต่โชคดีที่หลายๆ อย่างก็เป็นสิ่งประดิษฐ์ในยุคใหม่ที่เริ่มมีบทบาทสำคัญต่อชีวิตเรามากขึ้น การติดต่อสื่อสารง่ายขึ้น ทำให้สิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ นวัตกรรมใหม่ๆ เริ่มมุ่งมาตรฐานเปิดกันตั้งแต่เริ่มต้น จนเป็นการรวมกันเป็นสากล อย่างการมีสมาคม ชมรม สหพันธ์ระหว่างประเทศ เพื่อความร่วมมือกัน
เพราะฉะนั้น มันก็ไม่แปลกที่ต่อไปนี้การทำมาตรฐานอะไรสักอย่างนึงเพื่อใช้ในวงกว้างเราคงได้เห็นสิ่งที่เป็นการถกเถียงคะคานกันจนกลายเป็นมาตรฐานที่ทุกๆ กลุ่มผลประโยชน์สามารถนำไปใช้กันในการแข่งขันกันอย่างเสรีได้มากขึ้น