จาก เว็บให้บริการด้านข้อมูลบนกลุ่มเมฆ (cloud services) ถ้าดีก็จ่ายเงินเค้าเหอะ ก็ได้อธิบายไปบ้างบางส่วนแล้วว่า Multiply กับ Flickr นับวันยิ่งเห็นความต่างเยอะ ด้านความคมชัดของภาพ Multiply ห่วยลงเรื่อยๆ เริ่มรับไม่ได้ ระบบจัดการรูปก็ไม่พัฒนา มีแต่อะไรก็ไม่รู้ อาจจะไม่เห็นภาพเท่าไหร่ ผมจึงเอาหลักฐานภาพประกอบมาเพื่อแสดงให้เห็นกันครับ
หมายเหตุ : ทั้งสอง Account เป็นแบบเสียเงินรายปี เพราะฉะนั้นจึงตัดเรื่องคุณภาพของการให้บริการแบบเสียเงินกับไม่เสียเงินไปได้เลย เพราะนี่คือ Account เสียเงินรายปีทั้งคู่!!!
ด้านล่างคือตัวอย่างภาพที่เทียบ ด้านซ้ายเป็นภาพอยู่บน Multiply ที่เป็น Normal View ของ Multiply สำหรับ Resolution ขนาด 1024px เช่นเดียวกับภาพด้านขวาที่เป็น Normal View ของ Flickr บน Resolution เดียวกัน บน Mozilla Firefox เช่นกัน โดยไฟล์ภาพทั้งสองตัวนั้นเป็นไฟล์ภาพขนาดใหญ่ทั้งคู่ โดยย่อและ USM ตามขนาดที่ควรจะเป็น โดย Multiply อัพผ่านหน้าเว็บด้วย HTML Upload ธรรมดา ส่วน Flickr อัพผ่าน Flickr Uploadr อีกทีนึง
Multiply vs Flickr
รูปต้นฉบับที่ Flickr : http://www.flickr.com/photos/fordantitrust/5506863990/
รูปต้นฉบับที่ Multiply : http://fordantitrust.multiply.com/photos/photo/339/33
จากภาพนั้นจะเห็นความคมชัดของภาพนั้นแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ถ้าดูเรื่องสีสัน รวมถึงความอิ่มสียิ่งเห็นความแตกต่างหนักเข้าไปอีก นี่แค่เหตุผลแรกก็ชัดเจนที่จะย้ายแล้วในขั้นต้น ….
แน่นอน อีกนิดนึงสำหรับเรื่องระบบจัดการรูปภาพนั้น
Multiply ยังคงเดิมและไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
Multiply vs Flickr
Flickr กลับมีลูกเล่นและทางเลือกในการจัดการไฟล์ภาพได้เยอะกว่า
Multiply vs Flickr
จริงๆ ตัวระบบจัดการไฟล์นั้นอิงตามแนวคิดที่แตกต่างกันด้วยนะ
Multiply มีแนวคิดเก็บรูปแบบ film คือ รูป “แปะติด” กับ album ส่วน Flickr มีแนวคิดเก็บรูปแบบ digital คือ รูป “ผูก” กับ tags/sets/collections
เมื่อแนวคิดของคนเราส่วนใหญ่เป็นแบบ hard copy ทำให้แนวคิดแบบ Multiply ดูจะได้รับความนิยมมากกว่า เพราะเข้าใจง่ายกว่า และดูจะอ้างอิงกับสิ่งที่คุ้นเคยได้ดี แต่กับแนวคิด soft copy นั้นแตกต่าง และแน่นอนว่าแนวคิดแบบนี้ถ้าเอามาใช่กับแนวคิดของรูปแบบบนสื่อ digital ย่อมดีกว่าเพราะประหยัดพื้นที่ และการเข้าถึงที่หลากหลายกว่า
เอาสั้นๆ อีกที
Flickr คือ Photo Centric ส่วน Multiply คือ Album Centric
ซึ่งมันก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันขึ้นอยู่กับความชอบและแนวคิดของแต่ละคนไป
แต่ในยุคที่การถ่ายภาพนั้นแตกแขนงออกมากมาย รูปภาพหนึ่งรูปแทนคำได้มากมาย ความหมายในภาพมีอยู่นับไม่ถ้วน นั้นหมายความว่าการกำหนดว่าภาพใดๆ จะต้องถูกจำกัดเพียงความหมายเดียวของ Album นั้นๆ ดูจะทำให้รูปภาพนั้นสื่อสารตัวมันเองออกมาได้เพียงหัวข้อสั้นๆ ที่จำกัดใจความสำคัญของภาพได้น้อยลงไป ผมเลยรู้สึกว่ามันควรมีอะไรมากกว่านั้นมาก
แต่นั้นเองทำให้ Album ภาพของ Multiply มีระบบ tags เข้ามา แต่มันไม่มากพอ เพราะมันผูกกับ Album ไม่ใช่รูปภาพนั้นๆ และรูปภาพนั้นๆ มีข้อมูลมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Geotagging และข้อมูลต่างๆ ในการปรับแต่งมากมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งนำไปใช้ประโยชน์ได้เยอะกว่าแค่ดูภาพ 1 ภาพแล้วจบ มันสามารถเล่าเรื่องราวของการเดินทางได้ผ่านส่วนเติมเต็มเหล่านี้ได้อีกมาก
เหตุผลต่อมา คือรูปแบบการอัพโหลดตัวรูปที่ให้ทางเลือกไม่เท่ากันโดย Multiply มีเครื่องมืออำนวยความสะดวกในการอัพโหลดรูปที่ส่งขึ้นไปได้น้อยกว่า Flickr อย่างมาก อีกทั้งตัว Java Uploader ของ Multiply (ซึ่งหลายคนชอบใช้) มีปัญหากับแนบ Profile สีของรูป หรือถ้าไม่ปรับ original file ตอน upload จะโดนย่อรูปจนเสียคุณภาพแถมสีเพี้ยนเข้าไปอีก ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยาก ในระยะหลังๆ ผิดกลับ Flickr ที่มีเครื่องและทางเลือกที่หลากหลายมากในการอัพรูปเข้าเว็บ โดยพื้นฐานการอัพเข้าเว็บจากตัวเว็บเองก็ไม่ยุ่งยากและดูจะเรียบง่ายกว่ามากๆ แล้ว ตรงนี้แหละที่ทำให้มือใหม่ที่เพิ่งมาสมัครใช้งานได้แทบจะทันที
รูปแบบการอัพโหลดปรกติของ Multiply ระบบการทำงานด้านหลังเป็น Flash แต่ไง๋ทำไมต้องไล่คลิ้กทีละไฟล์ก็ไม่รู้ และไม่มีทางเลือกสำหรับ Basic HTML เพราะงั้น Flash พังก็จบกัน -_-”
Multiply vs Flickr
รูปแบบอัพโหลดด้วย Java Uploader ของ Multiply ที่มักมีปัญหาและสีเพี้ยน -_-” ข้อดีคือลากไฟล์ใส่ไปเลยเป็นร้อย ไม่ต้องคลิ้กทีละไฟล์แบบตัวด้านบนที่อัพได้ทีละ 20 รูป คลิ้กใส่รูปทีละไฟล์
Multiply vs Flickr
รูปแบบการอัพโหลดปรกติของ Flickr คลิ้กใส่ได้เลยหลายๆ รูปสบายๆ เพราะใช้ Flash Upload อีกต่อนึง หรือถ้ามีปัญหากับ Flash ก็ใช้ HTML ปรกติก็ได้แบบเดียวกับ Multiply ตัวแรก แต่เป็นแบบ Basic HTML ล้วนๆ เพราะงั้นถ้ามีปัญหากับ Flash ก็ยังใช้วิธีโบราณสุดๆ ก็ยังไหว
Multiply vs Flickr
จริงๆ ยังมี Flickr Uploadr ตัว Desktop App ที่ทำงานไม่ต้องผ่านเว็บก็ได้อีกตัวนึงครับ แต่ว่าไว้ก่อนแค่นี้ก่อน ^^
อันนี้เป็น 3 เหตุผลหลักที่ทำให้เกิดการย้าย ยังมีเหตุผลอีกเล็กๆ น้อยๆ ที่ผมคิดว่าอาจจะดูยาวไป เอาแค่ 3 ข้อนี้ก่อนแล้วกัน เดี่ยวจะยาวเกินไป (นี่ยังไม่ยาวอีกเหรอ!!!)
สำหรับใครสนใจเข้าไปได้ที่ http://www.flickr.com โดยรายละเอียดความแตกต่างระหว่าง Free Account และ Pro Account ก็ตามด้านล่างนี้เลยครับ ผมแนะนำว่าเสียเงินสักนิดหน่อยปีละไม่ถึง 800 บาท ชีวิตจะดีขึ้นมาก ^^
Free Account:
– อัพรูปได้ไม่จำกัดจำนวณ (Unlimited uploads items, จำกัดที่ 15MB ต่อรูป)
– จำกัดจำนวนข้อมูลที่อัพเข้ามาที่ 300MB ต่อเดือน (300 MB monthly photo upload limit)
– อัพวิดีโอได้ 2 ไฟล์ต่อเดือน (เวลาในวิดีโอไม่เกิน 90 วินาที, 150MB ต่อไฟล์)
– รองรับเฉพาะ sets ได้เพียง 3 sets เท่านั้น และใช้ collections ไม่ได้
– การแสดงผล Photostream จำกัดจำนวนการแสดงผล 200 รูปล่าสุดเท่านั้น (รูปเก่าๆ ยังอยู่ แต่ว่าจะไม่แสดงใน Photostream ของเว็บ)
– รองรับการโพสรูปและวิดีโอเข้ากลุ่ม (groups pools) เพื่อแบ่งปันกันได้มากสุด 10 กลุ่ม
– แสดงผลเฉพาะรูปภาพที่ถูกย่อแล้วเท่านั้น (Only smaller resized images accessible)
– ถ้ามีการ upgrade ไป Pro Account รูปภาพต้นฉบับจะสามารถเข้าถึงได้ด้วย (เก็บรูปภาพตันฉบับไว้ด้วย)
– ถ้าบัญชีสมาชิกไม่มีความเคลื่อนไหวใน 90 วัน บัญชีสมาชิกจะถูกลบออกไป
Pro Account:
– อัพรูปได้ไม่จำกัดจำนวณ และไม่จำกัดจำนวนข้อมูลที่อัพเข้ามา (Unlimited uploads, จำกัดที่ 20MB ต่อรูป)
– ไม่จำกัดจำนวนการส่งข้อมูลออกจากเว็บ (Unlimited bandwidth)
– อัพวิดีโอได้ไม่จำกัดจำนวน (เวลาในวิดีโอไม่เกิน 90 วินาที, 500MB ต่อไฟล์และ รองรับ HD 720p)
– ไม่จำกัดพื้นที่เก็บรูป (Unlimited storage)
– เก็บไฟล์ต้นฉบับ ให้ทั้งหมด
– สามารถแก้ไขรูปภาพที่อัพไปแล้วด้วยการอัพโหลดรูปไปทับไฟล์เดิมได้ (replace a photo)
– การแสดงผล Photostream ไม่จำกัดจำนวนการแสดงผลล่าสุด
– รองรับ collections และตั้ง sets แบบไม่จำกัดจำนวน
– ไม่มีโฆษณา
– รองรับการโพสรูปและวิดีโอเข้ากลุ่ม (groups pools) เพื่อแบ่งปันกันได้มากสุด 60 กลุ่ม
– แสดงผลรูปภาพที่ถูกย่อแล้วและสามารถตั้งให้แสดงผลรูปต้นฉบับหรือโหลดไฟล์ต้นฉบับได้ด้วย
– มีระบบสถิติให้
อ้างอิง
http://www.flickr.com/upgrade/
http://www.flickr.com/help/limits/