จากกรณี Don’t drive on glass! Lawmakers want to ban wearing Google Glass while on the road ซึ่งเป็นเหตุการณ์หลังจากเรื่อง Google Glass กับการถูกละเมิดสิทธิ์ความเป็นส่วนตัว โดยในมุมมองส่วนตัวแล้วนั้น ถึง Google Glass จะยังไม่ได้ถูกใช้จริงในสภาพความเป็นจริงมากนัก แต่เมื่อรู้หรือพอเดาออกว่ามันจะเกิดผลอะไร สิ่งที่ต้องทำคือ “ปกป้องคนที่ใช้และคนที่ไม่ได้ใช้งาน” เราไม่รู้ว่ามันมีผลกระทบอะไรกับคนใช้แค่ไหน แต่การเทียบเคียงกับโทรศัพท์มือถือก็เพียงพอที่จะตีความได้บางส่วน เพราะฉะนั้นมันไม่แปลกที่จะถูกเสนอให้ควบคุมการใช้งานในวงจำกัด นี่ยังไม่รวมไปถึงเรื่องความเป็นส่วนตัวของผู้ที่อยู่รอบตัวผู้ใช้งานที่พวกเค้าพร้อมจะพูดละเมิดสิทธิ์ความเป็นส่วนตัวได้ทุกเมื่ออีกด้วยจากข่าวก่อนหน้านี้
Google Glass
Google Glass กับการถูกละเมิดสิทธิ์ความเป็นส่วนตัว
จากข่าว ร้านอาหารในซีแอทเทิลประกาศแบน Google Glass ห้ามนำมาใช้ภายในร้าน นั้น
ผมอ่านความคิดเห็นหลายคนแล้วมีความรู้สึกว่า “คนอื่นจะละเมิดสิทธิ์ของเราไม่ได้นะ มันสิทธิ์ของเรา บลาๆๆ แต่การกระทำของตัวเองกลับกำลังเข้าค่ายละเมิดสิทธิ์ความเป็นส่วนตัวของคนอื่นอยู่ คำตอบกลับบอกมันเรื่องปรกติ ตูจะทำ จะทำไม” (╯°□°)╯︵ ┻━┻)
การถ่ายรูปน่ะมันไม่มีปัญหาหรอก ถ้าไม่ได้ไปติดคนอื่นๆ ที่เค้าไม่อยากเข้าในเฟรมของรูปเรา เพราะรูปหรือวิดีโอที่เราบันทึกไปแล้วอาจเอาไปโพส-แชร์ต่อนั้น มันอาจมีปัญหาในภายหลังได้ ซึ่งมันไปละเมิดสิทธิ์คนอื่นเค้าอยู่นะเว้ย
ซึ่งเรื่อง Google Glass ที่โดนแบนก็เพราะเหตุนี้แหละ เพราะถ้ามันถ่ายรูปหรือบันทึกวิดีโอไม่ได้ มันคงไม่มีปัญหาหรอก แต่มันมีปัญหาเพราะมันทำได้ และนั้นแหละคือสิ่ง “อาจ” ถูกนำไปใช้ในการละเมิดสิทธิ์คนอื่นได้ง่ายมากๆ
ผมเคยเขียนเรื่องนี้แบบเต็มๆ ไว้แล้วใน การแอบอ้างหรือนำรูปไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาติ แนะนำให้ตามไปอ่านดูครับ