- คุณภาพไฟล์อยู่ในขั้นดีระดับประมาณ 650D ด้วยไฟล์ 18 ล้านพิกเซล
- เล็ก เบา ใช้งานไม่เป็นภาระกับมือ รู้สึกเหมือนถือ iPad ถ่ายรูปอยู่
- การจับถือทำออกมาได้ดีเกินคาด กระชับมือมาก กับนิ้วก้อยผมได้ผมโอเค (การออกแบบส่วนนี้โอเคกว่า Nikon D80 ตัวเก่าผมอีก)
- ปุ่มกดอยุ่ในมุมที่ดี มีปุ่มไม่เยอะ แต่เป็นปุ่มที่จำเป็น เมนูบางส่วนย้ายไปอยู่ที่จอภาพ
- จอภาพสีสันสวยงาม เป็น touchscreen แบบ capacitive multitouch การใช้งานเลื่อนรูป ซูมเข้า-ออกเหมือนใช้ smartphone เลย การสั่งงานบางส่วนย้ายมาอยู่ที่จอภาพและสั่งงานผ่านการ touch บอกจอได้
- การเลือก exposure ค่า f หรือ ISO มีผลให้เห็นทันทีถ้าใช้ LiveView ไม่ต้องเดา หรือมโนไปเอง
- เลนส์คิต 40mm f/2.8 ใช้ดีมาก เข้ากับตัวกล้อง คุณภาพเลนส์ดี ละลายหลังเยี่ยม ที่ f/2.8 ใช้งานได้ดี
- ที่ระดับ ISO 3200 ส่วนตัวแล้วโอเคกับไฟล์ที่มีมา noise ก็คงมีมาอยู่แล้ว แต่ส่วนตัวมองว่าภาพที่ได้ใสดี แต่แนะนำว่า ISO 1600 ถือว่าเนียนกริป
- ช่องมองภาพเมื่อใช้ตาส่องเข้าไปไม่รู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด รู้สึกดีกว่า EVIL หลายๆ ตัวในตลาดเสียด้วยซ้ำ
- มันคือ DSLR ขนาดย่อส่วน แต่คุณภาพของภาพที่ได้ไม่แพ้รุ่นพี่ ใช้กับเลนส์ EF ในตลาดได้เยอะมากทั้งถูกจนถึงแพงมาก แต่อาจมีปัญหาเรื่องสมดุล แนะนำใช้คู่กับคิตถ่ายเอาสนุกโอเคเลย
Canon
พาชมงานเปิดตัว Canon EOS 100D ของ Canon ประเทศไทย
เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2556 ที่ผ่านมา บริษัท Canon ผู้นำเข้ากล้องดิจิทัลได้เปิดตัวกล้องประเภท DSLR ในตระกูล EOS รุ่น 100D ซึ่งเป็นกล้องประเภท DSLR ที่ได้ชื่อว่าเล็กและเบาที่สุดในโลก โดยมุ่งเน้นด้าน เปิดประสบการณ์ใหม่ในการถ่ายภาพสำหรับคนถ่ายรูปที่ต้องการกล้องที่มีคุณภาพจากเซ็นเซอร์ DSLR ในรุ่นโปรในรูปแบบของตัวถังที่มีขนาดเล็ก พกพาสะดวกและจับถือง่าย ที่เหมาะสำหรับผู้หญิงและผู้ที่ต้องเดินทางบ่อยๆ ด้วย
โดยตัวสินค้าแล้วนั้น Canon EOS 100D นั้นถูกวางตัวสินค้าไว้ที่ผู้ใช้ระดับเริ่มต้นที่สนใจอยากใช้งาน DSLR กลุ่มคนที่อยากได้กล้องคุณภาพดีและน้ำหนักเบา หรือเป็นกล้องตัวที่สองสำหรับคนที่ใช้งาน DSLR อยู่ก่อนแล้ว โดยมุ่งเน้นที่ความเบา และขนาดที่เล็ก แต่ยังคงคุณภาพของภาพที่ได้ไม่แตกต่างจาก DSLR ในรุ่นสูง
ขนาดที่เล็ก ความหนาของตัวกล้องที่ไม่มาก และน้ำหนักเพียง 370 กรัม เมื่อไม่ใส่เลนส์ ทำให้ตัวกล้องนั้นมีขนาดที่น่าสนใจ และเมื่อใส่กับเลนส์ EF 40mm f/2.8 STM ด้วยแล้ว ทำให้ตัวกล้องหนาเพิ่มขึ้นไม่มากนักและมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นประมาณ 500 กรัมเท่านั้น แต่ได้คุณภาพของความชัดตื้น (DOF) ของภาพที่สูงพอสมควรเลย
ตัวกล้องนั้นมีขนาดเล็กซึ่งใหญ่กว่ากระป๋องโค้กไม่มากนัก
คุณสมบัติด้านการถ่ายรูปต่างๆ
- มีขนาดของเซ็นเซอร์เป็นแบบชนิด APS-C (22.3mm x 14.9mm) ความละเอียด 18 ล้านพิกเซล ตัวคูณที่ 1.6x เมื่อเทียบกับขนาดฟิล์มของกล้อง 35mm ขนาดของไฟล์ที่ได้ใหญ่สุดที่ 17.90 ล้านพิกเซลหรือความละเอียด 5,184 x 3,456 พิกเซล
- รองรับ ISO 100-12,800 (High 25,600)
- มีจุดโฟกัส 9 จุด และจุดโฟกัสแบบ Cross-type ที่จุดกลาง มีระบบโฟกัสใหม่ที่ชื่อ Hybrid CMOS AD II ที่จับโฟกัสได้พื้นที่มากขึ้น และควบคุมจากจอภาพหลังกล้องได้ด้วย รองรับเลนส์ความไวแสงสูงสุด f/2.8
- สามารถถ่ายภาพได้ต่อเนื่อง 4 เฟรมต่อวินาที
- ใส่ Image Processor รุ่น DIGIC 5 มาในตัวกล้อง
- ระบบวัดแสง 63 โซนแบบ Dual-layer
- ระบบถ่ายวิดีโอ EOS Movie mode ที่สามารถถ่ายวิดีโอได้ถึงขนาด 1080p (Full HD) พร้อมคุณสมบัติ Movie Servo AF
- ขนาดของ View Finder รองรับ 95% ของพื้นที่ทั้งหมด และอัตราขยาย 0.87 เท่า
- จอภาพด้านหลังมีขนาด 3 นิ้ว เป็นแบบ Clear View II ที่ให้ภาพคมชัดมากขึ้นในที่แสงจ้าและต้องการมองจอภาพด้านหลัง ตัวจอภาพด้านหลังนั้นเป็นแบบ Multi-touch เพื่อสั่งงานกล้องได้จากตัวจอภาพได้ทันที
- ทำงานร่วมกับการ์ดหน่วยความจำ SDXC และรองรับ Eye-Fi ด้วย
- มี Scene Mode ให้เลือกใช้งาน
- เมาท์เลนส์ใช้งานร่วมกับเลนส์ EF และ EFS ของ Canon ได้เหมือนรุ่นโปรอย่าง EOS 650D หรือ EOS 7D เป็นต้น
เมื่อวางเทียบกับ Nokia Lumia 920 และ Apple iPhone 5
วางเทียบกับ Panasonic Lumix GH3
ปุ่มควบคุมด้านหลังของตัวกล้อง ใครใช้งาน Canon อยู่คนใช้ไม่ยาก จำนวนปุ่มลดน้อยลงกว่าเดิม และเน้นสั่งงานผ่านจอภาพหลังกล้องมากขึ้นแทน
ตัวเปิด-ปิดของกล้องอยู่ด้านบนข้างๆ ตัวปรับโหมดของกล้อง ทำให้เปิด-ปิดได้ง่ายมากขึ้น
ช่องใส่การ์ดหน่วยความจำและแบตเตอร์รี่ใส่ในที่เดียวกัน ตัวแบตเตอร์รี่นั้นมีขนาดเล็กกว่า Canon EOS 650D รุ่นพี่ร่วมค่าย
กล่าวโดยสรุป (หลังจากได้จับตัวกล้องนี้ประมาณ 10-15 นาทีภายในงาน)
- ตัวกล้องมีขนาดเล็กอย่างที่เห็นในรูปพอสมควร แต่ที่แปลกใจคือน้ำหนักนั้นเบามาก เบากว่าที่คิด ใครพกแท็บเล็ตไปไหนมาไหนได้ การพกพากล้องตัวนี้ไปเที่ยวแล้ววางแท็บเล็ตไว้ที่บ้าน คงไม่เป็นภาระในการเดินทางมากนัก (แต่ถ้าเอาไปทั้งสองอย่างก็หนักขึ้นอีกเล็กน้อย)
- ตัวเลนส์ที่ให้มาในชุด (EF 40mm f/2.8 STM) นั้นโฟกัสเงียบมาก ทำงานรวดเร็วดี แต่ถ้าถ่ายรูปจ่อๆ อาจจะต้องหาระยะสักหน่อย แต่ภาพที่ได้นั้นถือว่าดีมาก
- การปรับโหมดต่างๆ นั้นใครใช้รุ่นใหญ่มาก่อน อาจจะงงๆ เพราะปรับจากตัวจอภาพด้านหลังเยอะมาก ควรศึกษาและทำความเข้าใจสักหน่อย
- กล้องตัวนี้ส่วนตัวคิดว่าเหมาะกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เพราะขนาดค่อนข้างเล็ก ผู้ชายจับอาจจะไม่ถนัดเท่าไหร่นัก
- การจัดวางที่จับด้านขวาทำได้ดี ระยะไม่ลึกจนเกินไป
- ถ้าคิดจะเอาไปใช้กับเลนส์ขนาดใหญ่อย่าง EF 70-200 mm F4L USM หรือ EF 70-200mm f/2.8 L IS USM อาจจะดูโหดร้ายเกินไปในการจับถือ แค่ EF 50mm f/1.8 กำลังเหมาะสม ถ้าไประดับ EF 85mm f/1.8 USM อาจจะหนักไปสักหน่อย ตรงนี้คงแล้วแต่ความต้องการแต่ละคน แต่ต้องบอกว่าศูนย์ถ่วงนั้นไม่สมดุลอย่างมาก ถ้าใช้เลนส์ใหญ่เกินไปแล้วถือที่ตัวกล้องเมาส์เลนส์อาจเสียหายได้
ดูขนาดเมื่อใช้งานได้จากภาพด้านล่างที่นำมาฝากกัน
ด้านล่างนี้คือตัวอย่างไฟล์รูปภาพ JPEG จากกล้อง Canon EOS 100D แบบโหมดถ่ายภาพ A+ (คลิ้กที่ภาพเพื่อเปิดไฟล์ภาพขนาดจริง) สำหรับไฟล์ RAW นั้นไม่ได้บันทึกมา ถ้ามีโอกาสได้ตัวกล้องมารีวิวจะนำมารีวิวละเอียดกว่านี้อีกที
1/80 sec f/5.0 ISO 1250, 1/60 sec f/4.5 ISO 1600
1/80 sec f/5.0 ISO 2000, 1/80 sec f/5.0 ISO 1600
1/60 sec f/5.6 ISO 6400, 1/80 sec f/5.6 ISO 6400
สำหรับตัวกล้อง Canon EOS 100D จำหน่ายพร้อมกับเลนส์ EF 40mm f/2.8 STM โดย Canon ประเทศไทยตั้งราคาโปรโมชั่นไว้ที่ 26,900 บาท และตอนนี้เริ่มมีวางจำหน่ายแล้ว (ราคาโปรโมชั่นนี้มีถึงวันที่ 31 พ.ค. 2556)
Canon ทำกล้องวงจรปิด!!!
ไปอ่านใน Canon Network Camera, Ice Monster ของ @ifew เมื่อเช้าแล้วน่าสนใจแฮะ … คือเมื่อตอนเรียนปีสามเนี่ยผมเคยไปติดตั้งกล้องวงจรปิดให้พ่อผมที่ร้านอาหารของพ่อที่พิษณุโลก (แถวๆ ม.นเรศวรนั้นแหละ) แล้วพบความยุ่งยากว่าต้องมานั่งดูว่ากล้องแต่ละตัวมันเข้ากับชุดการ์ด DVI ของเราได้หรือเปล่า แล้วเจ้าการ์ด DVI เนี่ยมันรองรับกล้องได้กี่ตัว แถมต้องลากสายสัญญาอะไรอีกให้วุ่นวายมากมายเลย –_-‘ แถมไอ้เรื่องที่น่าปวดหัวที่สุดคือการ์ด DVI เนี่ยมันเลือก M/B และ VGA Card ด้วยครับ ใช้รุ่นใหม่ๆ หน่อยก็ไม่ได้ ต้องรุ่นเก่าๆ หน่อยไม่งั้นภาพไม่ขึ้นใช้งานไม่ได้อีก แถมเจ้าระบบไฟล์ที่ได้จากการ์ด DVI มันเป็นไฟล์เฉพาะ อยากเอาออกมาใช้งานทีนึงก็ต้อง Export เป็น Mpeg4 ซึ่งกินเวลานานมาก ขนาดต้องการแค่ 2-3 ชั่วโมงยังใช้เวลา Export 5-6 ชั่วโมงทีเดียว แถมมีขนาดไฟล์ที่ใหญ่มากๆ ด้วย แถมในรุ่นเล็กๆ ยังทำให้ดูผ่านระบบ Network ไม่ได้เสียด้วย ซึ่งลงทุกไปหลายหมื่นอยู่แต่ได้งานในระดับที่พอใช้ได้
ซึ่งมารอบนี้ Canon เข้ามาทำตลาดกล้องวงจรปิดแบบ IP Network Camera แล้วน่าสนใจมากคือต้องบอกก่อนว่าเจ้า IP Network Camera นี่มีมาพอสมควรแล้วหล่ะ เพียงแต่ว่าทำตลาดในวงแคบและไม่ค่อยเป็นที่รู้จักเท่าไหร่นัก แต่มารอบนี้ Canon ทำตลาดให้ผู้ใช้งานตามห้างร้านที่ต้องการกล้องวงจรปิดโดยใช้ความรู้ในด้านการติดตั้งน้อยกว่าตอนผมติดตั้งเมื่อ 4-5 ปีก่อนมากเลยทีเดียว พร้อมระบบควมคุมที่น่าสนใจทีเดียวครับ จากที่ได้อ่านการติดตั้งและคุณสมบัติของมันแล้ว เจ้าตัวซอฟต์แวร์ Network Video Recording นี่ต่อได้ 64 ตัวพร้อมๆ กันได้เลย เลยน่าสนใจมากสำหรับคนที่ต้องการติดตั้งให้ครอบคลุมพื้นที่มากจุด แถมแปลงไฟล์วิดีโอเป็น QuickTime ซึ่งผมไม่แน่ใจว่า QuickTime เนี่ยมันเป็น Mpeg4 หรือเปล่า ถ้าใช่ก็ไม่แน่ใจอีกว่าเป็น codec H.264 ที่ใช้พื้นที่จัดเก็บไม่มากแบบรุ่นที่ขายกันทั่วไปไหม
ยืมภาพจาก @ifew มา เดี่ยวไม่เห็นของจริง ;P
ต่อมาเรื่องของ Motion Detection และ Night Mode ที่ถ้าเป็นกล้องแบบเดิมๆ จะอยู่ในรุ่นสูงๆ หรือกล้องเฉพาะงานที่มีราคาแพงเท่านั้น ซึ่งในตัวนี้มีมาให้พร้อมเลยทีเดียวครับ ซึ่งเจ้า Motion Detection นี่น่าจะละเอียดกว่าพวก DVI โดยทั่วไปอยู่พอสมควร เดี่ยวถ้าได้มีโอกาสอัพเกรดตัวกล้องที่ร้านคงได้ลองใช้ดู … (อาจจะไปยุให้บ้านน้าติดตั้งดูก็ดีแฮะ เพราะเห็นว่ากำลังจะติดตั้งอยู่เหมือนกัน)
… แล้วพอลล่าไม่เป็นพรีเซ็นเตอร์เหรอครับ ;P
อ้างอิงข้อมูลอื่นๆ จาก
“พิสูจน์แล้ว แคนนอน Network Camera เทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อโลกธุรกิจ…ที่ให้ได้มากกว่าความปลอดภัย”
http://th.syndacast.com/press-releases/277-canon-network-camera.html
http://www.pixpros.net/forums/showthread.php?p=896214#post896214
http://technology.impaqmsn.com/article.aspx?path=spec&rid=0&id=9772