ตัวจริงมาแล้ว! Adobe Photoshop Lightroom 5

วันนี้ในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาประเทศไทย Adobe ได้เปลี่ยนหน้าเว็บของ Adobe Photoshop Lightroom จากเวอร์ชั่น 4 เป็น 5 อย่างเงียบๆ โดย Adobe Photoshop Lightroom นั้นเป็นซอฟต์แวร์สำหรับบริหาร แก้ไข และบันทึกรูปภาพในรูปแบบไฟล์ภาพต่างๆ โดยรองรับทั้งไฟล์ภาพที่หลากหลายและปรับแต่งได้อย่างอิสระ

คุณสมบัติเด่นในเวอร์ชั่นนี้ได้แก่

  • Offline editing with Smart Previews ความสามารถที่ช่วยให้เราแก้ไขรูปภาพได้แม้ว่าไฟล์รูปที่กำลังเปิดอยู่นั้น ต้นฉบับไม่อยู่ที่เครื่อง แต่เมื่อเชื่อมต่อเข้ากับที่จัดเก็บไฟล์นั้นๆ ตัวข้อมูลที่แก้ไขจะถูกนำกลับเข้าไปบันทึกทันที
  • Advanced Healing Brush การแก้ไขรูปภาพที่มีความถูกต้องแม่นยำมากขึ้นกว่าการใช้ Healing ปกติ ซึ่งเป็นความสามารถที่ถอดแบบมาจาก Adobe Photoshop ตัวเต็ม
  • Upright เป็นความสามารถในการทำให้ภาพเอียงให้ตรงได้โดยไม่ต้องใช้ไม้บรรทัดวัดความลาดเอียงแบบเก่า
  • Radial Gradient เครื่องมีในการปรับและไล่โทนสี เฉพาะจุด
  • Video slideshows สร้างสไลด์โชว์เป็นวิดีโอได้ง่ายๆ
  • Improved photo book creation นำภาพต่างๆ มาสร้างเป็น photo book ได้โดยมีตัวเลือกให้เพิ่มขึ้นกว่ารุ่นเก่า

สำหรับราคาแบบ Retail นั้น Adobe Photoshop Lightroom 5 จะมีราคาอยู่ที่ 4,676.81 บาท ซึ่งถูกลงมาอีกประมาณ 5% จากเวอร์ชั่น 4 โดยในเวอร์ชั่น 4 ราคาจะอยู่ที่ 5,080 บาท เมื่อช่วงตอนปี 2555 ที่ผ่านมา สำหรับคนที่ซื้อเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้ (ตั้งแต่เวอร์ชั่น 1.0 ถึง 4.0) ราคาจะเหลือเพียง 2,528 บาท หรือประมาณ 55% ของราคาขายจากตัวเต็ม โดยราคาทั้งหมดเป็นราคาแบบดาวน์โหลดและจ่ายเงินผ่านระบบออนไลน์

สำหรับการสมัครใช้งานในรูปแบบของ Creative Cloud นั้นราคายังไม่เปิดเผยแต่อย่างใด

ที่มา: Adobe, Adobe Store – Southeast Asia

เช่าใช้งาน Adobe Photoshop แบบ Adobe Creative Cloud ในราคาเดือนละ 600 บาท!

สุดท้ายประเทศไทยเรานั้นในระดับผู้ใช้งานทั่วไป (Individual) ก็ซื้อ Adobe Creative Cloud ผ่าน online ได้เสียทีหลังจากรอมานานเกือบปี

มาดูขั้นตอนกันว่าซื้อยังไง แต่บอกเลยว่าเข้าไปซื้อไม่ยากครับ

เข้าไปที่ https://creative.adobe.com/plans?plan=individual&store_code=th

โดยที่ Select Currency ที่มุมขวาล่างจะเลือก Thai (Baht) ไว้ให้

2013-05-13_202758

รับราคาไหนได้ก็เลือกครับ ส่วนตัวผมเอา Photoshop ตัวเดียว ผมก็เลือก Single App เดือนละ 600 บาท มีพื้นที่ให้ 20GB สำหรับเก็บไฟล์บนนั้นด้วยนะ ไม่ใช่แค่ตัว Software เท่านั้น

สำหรับตัว Complete ที่ราคา 1,500 บาทต่อเดือนนี่คุ้มค่ามาก (แต่ผมคิดว่าผมใช้ไม่หมด) เพราะได้ครบทุกตัวเลยทีเดียว

2013-05-13_220717

แล้วก็เลือก App ที่จะลง ซึ่งก้คือ Photoshop ครับ แล้วเลือกเป็นแบบ Requires annual commitment
(จากความเข้าใจคือทำสัญญาเป็นรายปี แต่เก็บเงินเป็นรายเดือน ถ้ามีการยกเลิกก่อนครบ 1 ปีจะคิดเงินเดือนสุดท้ายแบบย้อนหลังส่วนต่าง โดยคิดส่วนต่างจาก Cancel at any time คือพูดง่ายๆ ย้ายเพิ่มอีกเดือนละ 300 บาทนับจากเดือนที่ใช้งานมาย้อนหลัง)

ตัวเลือก Cancel at any time หมายถึงใช้เป็นเดือนต่อเดือน ราคา 900 บาท เหมาะกับคนที่นานๆ ใช้ทีนึง หรือออกแนว Freelances หรือ Agency ที่ทำงานเฉพาะกิจใช้ 1-2 เดือนแล้วเลิก

ตัวเลือก Requires CS3+ purchase เป็นตัวเลือกสำหรับคนที่มี version เก่าๆ จะได้ลดราคาค่าใช้งานเหลือเดือนละ 300 บาท

2013-05-13_201556

พอเลือกได้ก็มาหน้าสำหรับจ่ายเงินมี 4 ขั้นตอนไม่ยากอะไร

ขั้นแรกก็สร้างหรือเข้าระบบด้วย Adobe ID มาก่อน

มาที่ขั้นตอนที่สองก็สรุปว่าเราเอา plan ตัวไหน (เปลี่ยนแปลงในขั้นตอนนี้ยังทัน)

ขั้นตอนที่สามเป็นเรื่องขอการจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต

สุดท้ายก็ยืนยันการชำระเงินในขั้นตอนที่สี่

2013-05-14_133410

เมื่อทุกอย่างครบก็จบส่วนของการจ่ายเงินและเลือก App จะมีอีเมลยืนยันมา 1 ฉบับ

2013-05-13_202556

เมื่อจ่ายเงินจบระบบจะพามาหน้า Apps ของ Creative Cloud แล้วให้เราโหลด Adobe Application Manager

ก็โหลดมาลงเลยครับ ไม่ต้องรออะไร

2013-05-13_202426

โหลดมาแล้วติดตั้งเสร็จก็รันตัว Adobe Application Manager ขึ้นมาเลย โดยมันจะถาม username/password ของ Adobe ID ตัวที่สมัครและจ่ายเงิน Creative Cloud ไปเมื่อกี้

ระบบจะแสดงรายการ App ที่เราสามารถติดตั้งได้ ส่วนตัว Try นั้นคือ Trial version ติดตั้งได้เหมือนกัน แต่มีการจำกัดระยะเวลาการใช้อยู่

2013-05-13_202449

ไม่ยากเลยตรงนี้ ก็คลิ๊ก Install แล้วตัว Adobe Application Manager มันจะโหลดตัว Photosop CS6 มาลงให้เรา เน็ตใครเร็วๆ หน่อยไม่เกินชั่วโมงก็ได้ใช้งานกันแล้ว (ผมเน็ต 4Mbps ชั่วโมงหน่อยๆ)

พอทุกอย่างผ่าน download ครบ ตัว Adobe Application Manager มัน install ให้เรา ก็จะขึ้นตัว App ในหน้า Start Screen ของ Windows 8 ของผมแล้ว มันโหลดทั้ง 32-bit และ 64-bit มาให้เลย (ตัว Adobe Application Manager คงเช็คว่าเครื่องผมรองรับ 64-bit เลยโหลดมาให้พร้อม)

หมายเหตุ. ที่เป็น Photoshop Lightroom ตัวนั้นผมซื้อเป็น Download version แบบ Retail แยกต่างหากมาตอนเปิดตัวครับ

2013-05-13_215534

ก็เปิดโปรแกรม Adobe Photoshop CS 6 ขึ้นมา จะมี dialog box ให้เรา Login โดยมันจะถาม username/password ของ Adobe ID ตัวที่สมัครและจ่ายเงิน Creative Cloud ไปเมื่อกี้ ก็ Login ไปตามระเบียบอีกรอบ สักพักทุกอย่างถูกต้องก็จะมีข้อความเตือนว่า Activate ผ่าน และใช้งานได้

2013-05-13_220037

ก็เปิด Updates สักหน่อย จะได้ทำงานได้สมบูรณ์มากขึ้น

2013-05-13_215550

จบเรียบร้อยสำหรับขั้นตอนง่ายๆ ของการซื้อ Adobe Photoshop แบบ Subscription ของ Adobe Creative Cloud ในราคาเดือนละ 600 บาท ครับ ^0^/

ปล. ขั้นตอนทุกอย่างทำงานผ่าน Internet ทั้งหมดก่อนเพื่อให้การ activate ตัว Software นั้นสมบูรณ์ครับ

ไทยเราใช้ Adobe Subscription Edition หรือ Creative Cloud ไม่ได้ ก็ทนๆ ซื้อแบบกล่องไปแล้วกัน!

ก็ว่าจะซื้อ Photoshop CS6 แบบ Subscription Edition หรือ Creative Cloud แต่ก็…. ><”

เอาภาพมาให้ชมให้ช้ำใจเล่นครับ

2012-06-26_181817

2012-06-26_180231

Adobe ซื้อ Macromedia ด้วยราคา 3.4 พันล้านดอลฯ

อะไร ๆ มันก็เป็นไปได้ นี่ก็อีกเรื่องที่เป็นไปแล้ว ตอนนี้ Adobe ซื้อ Macromedia และควบรวมมาในชื่อ Adobe Systems, Inc ไปเลย

Adobe Buys Macromedia for $3.4B
Posted by CmdrTaco on Monday April 18, @10:00AM

Kobayashi Maru writes “A press release from Adobe announces that they will buy Macromedia for approximately $3.4 billion. The new company will be called Adobe Systems, Inc.”

จากข่าวถือเป็นการขายกิจการด้านธุรกิจ IT ครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่งหลังจากการขายส่วนผลิต PC ตระกูล Think ของ IBM ให้ Lenovo อย่างที่ได้เคย ๆ ได้บ่น ๆ ใน blog ไปได้สักพัก ….

การขายครั้งนี้คาดว่าเป็นการรวมกันอยู่อย่างแข็งแกร่ง และถ่ายโอนเทคโนโลยีต่างๆ ถ้าคนที่ได้ใช้ซอฟต์แวร์ Adobe และ Macromedia แล้วจะพอเข้าใจว่าการทำงานนั้นแตกต่างกันในจุดหมายของผลงาน ซอฟต์แวร์ของ Adobe เป็นซอฟต์แวร์ทำงานด้านออกแบบ เช่น Photoshop เป็น 2D Raster Image, Illustrator เป็น 2D Vector Image, Premiere + AfterAffect เป็น 4D (Time Based/VDO Editor) และ Indesign เป็น Press + Layout. ส่วนซอฟต์แวร์ของ Macromedia เป็นซอฟต์แวร์สำหรับสร้าง Application Online เช่น Director, Flash, Dreamweaver, ColdFusion, ฯลฯ แทบทั้งสิ้นเลย …..
เมื่อเอาจุดแข็งมารวมกัน เพื่อลบจุดอ่อนของกันและกัน ทำให้เป็นเหมือนกับการฮั้ว และผูกขาดได้เลยทีเดียว (ผมคิดแบบนี้นะ) ….. แต่ที่ดูๆ แล้วมีซอฟต์แวร์บางตัวต้องหลีกทาง เช่น Freehand และ Illustrator, DreamWeaver และ GoLive, ImageReady และ Fireworks, ฯลฯ ดูกันว่าอะไรอยู่จะไป กัน …….. T_T

แต่ก็ดูต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร แต่ที่อยากให้เกิดคือราคาของ Software ของทั้งสองค่ายคงลดลงหลังจากควบรวมกัน แต่กลัวว่ามันจะรวมหัวกันขึ้นราคาหล่ะซิ T_T