สั่งหนังสือจาก Amazon รอบ 2

รอบที่แล้ว  อยากได้หนังสือ StarCraft เลยโดนค่าเสียหายจาก Amazon ฮ่า … ที่สั่งแต่ StarCraft มาล้วน ๆ มารอบนี้ก็ยังมีอยู่เพียงแต่ว่าเอาหนังสืออื่น ๆ ที่ซื้อในไทยน่าจะแพงและน่านานถ้าสั่งผ่านร้าน เลยซัดมาเต็มที่เลยคราวนี้ รวม ๆ ก็มีหนีบ ๆ StartCraft กลับมาเล่มนึง จริง ๆ ตอนนี้มี 3 เล่ม เพียงแต่ว่าตัว Nova มันต้องสั่งแยกส่วนการจัดส่ง เลยยังไม่เอา และอีกเล่มมันเป็น pre order กว่าจะได้ก็สิ้นปี เลยเอาออกไปก่อน

  1. The Laws of Simplicity (Simplicity: Design, Technology, Business, Life) [Hardcover] By: John Maeda (Author) – $13.60
  2. Microsoft Secrets: How the World’s Most Powerful Software Company Creates Technology, Shapes Markets and Manages People [Paperback] By: Michael A. Cusumano (Author) – $12.75
  3. Revolution in The Valley: The Insanely Great Story of How the Mac Was Made [Illustrated] [Hardcover] By: Andy Hertzfeld (Author) – $16.47
  4. Software That Sells : A Practical Guide to Developing and Marketing Your Software Project [Paperback] By: Edward Hasted (Author) – $19.79
  5. StarCraft: Dark Templar #1: Firstborn (StarCraft: The Dark Templar Saga) [Mass Market Paperback] By: Christie Golden (Author) –  $7.99

ส่วนเล่ม อื่น ๆ ก็ยัดใส่ Wish list ไปก่อน รอรอบหน้าเดี่ยวเจอกัน ;)

$12.71
$18.21
$19.77
$19.77
$17.15
$29.69
$26.37
$13.57
$18.48
$10.88
 
$11.25
$7.99
$17.13
$7.99
$24.95
$27.00
$29.35

หลาย ๆ คนคงสังเกตว่าผมมักจะชอบอ่านและสั่งหนังสือเรื่องราวของ Bill Gates เยอะ รอง ๆ ก็เรื่องคนในแวดวงแถว ๆ นั้นแหละ เพราะผมมองว่าอ่านสิ่งที่คนเหล่านี้คิด น่าจะช่วยให้เรามองโลกการสร้างซอฟต์แวร์ได้ลึกขึ้นกว่านี้

เดี่ยวนี้นั่งไล่หาหนังสือใส่ Wish list เกือบทุกวัน เล่มไหนดี เล่มไหนน่าสนใจ ยัดใส่หมด ท่าทางเงินเก็บจะหมดไปกับเรื่องพวกนี้ซะหมดมั้งเนี่ย T_T

ยาวนานจริง ๆ กว่าจะได้กลับมา blog blog

หายไปนาน วันนี้พอดีว่าเข้ามาดูในหน้า Admin ของ WordPress ที่ Dashboard มันมีให้ upgrade เป็น WordPress 2.2.3 เลย upgrade สักหน่อย ด้วยความที่ว่าไม่ได้ upgrade นานเลยสักนิดนึง เพราะตัวเองไปดูบ้านคนอื่นเยอะกว่าปกติ คือที่ siampod.com ซึ่งเป็นเว็บที่ผมร่วมด้วยช่วยกันทำกับพี่ kangg จริง ๆ เว็บมีอายุมาได้ 1 ปีแล้วหล่ะ แล้วประจวบกับมีเรื่องของ podcast ของค่ายหนังอย่าง GTH และ FiveStar เข้ามา ซึ่งก็มีเรื่องของ ‘สายลับจับบ้านเล็ก’ ที่จัดการเอา Flash VDO ขึ้นแล้วก็ทำตัว GTH Podcast ใส่เข้าไป ไอ้ทำ Podcast น่ะไม่เท่าไหร่ แต่เอาไปเก็บ Stat ด้วยนี่ดิ -_-‘ จริง ๆ ใช้ feedburner มันก็สะดวกดี แต่ก็นะ อยากเก็บไว้เอง ก็เลยเอามานั่งทำใหม่นิดหน่อย ไม่นาน แล้วก็เอา Engine ตัวเดียวกันนั้นแหละ ไปใช้กับ FiveStart ที่มี FiveStar Podcast ด้วย เรื่องแรกที่เอามาลงก็ ตัวอย่างหนัง "ไชยา" ซึ่งก็เข้าโรงภาพยนต์อยู่ในตอนนี้ทั้งสองเรื่อง ก็มันดี แล้วก็ตามด้วยงานเปิดตัว iMac, iLife และ iWork ในเดือนสิงหาคม ต่อด้วยที่ผ่านไปสด ๆ ร้อน ๆ กับงานเปิดตัว iPod ยกสายการผลิตของ Apple ที่ต้องปรับแต่ระบบนิดหน่อย ก็เลยมึน ๆ ไมไ่ด้มาดูดำดูดี blog ตัวเองเท่าไหร่ นอกจากนั่งไล่ลบ spam comment T_T

แล้วเสียดายที่ Blognone Tech Day 3.0 ที่ผ่านมาผมก็ไม่ได้เขียนอะไรเกี่ยวกับงานนี้เลย เพราะว่างานยุ่งมาก เหนื่อยกับงาน โคตร ๆ เลยตามไปอ่านของคนอื่น ๆ ดูนะครับ

– สรุปรวมบรรยากาศงานสำหรับคนไม่ได้ไป อ่านได้ที่นี่
– วิดีโอต้นฉบับที่ Thaimacdev

ในงานก็มีดังนี้ครับ

แนะนำให้ฟังอย่างยิ่งครับ ;)

ภาษาไทยใน iPod

เรื่องภาษาไทยใน iPod นี่ผมเซงมานานแล้ว จริงๆ ผมก็บ่นๆ ไปหลายกระทู้ใน Siampod.com ว่าถ้าภาษาไทยใน iPod ยังไม่ได้แบบ native จาก Apple นี่คงไม่ได้ซื้อเครื่องต่อไป (จริง ๆ ก็ไม่ได้ซื้อเองหรอก แต่ว่าคนจ่ายเงินก็ควรได้ในสิ่งที่ควรได้จริงแมะ) ใช้เครื่องเดิมไปก่อน หรือถ้ามีอันเป็นไปจริง ๆ (หลังจากหมดประกัน) จะซื้อ Zune ประชด Apple ให้ดู (ถ้ามันอ่านไทยได้ด้วยนะ, แต่ถ้าไม่ได้อีกก็หายี่ห้ออื่นที่มันอ่านไทยได้แล้วกัน เยอะแยะไป) ไม่รู้ดิ เราก็ลูกค้าเหมือนกัน จะบอกว่าประเทศเราเป็นพวกชนกลุ่มน้อย มียอดขายต่ำกว่าชาวบ้านเค้า นั้นมันเรื่องของบริษัทนำเข้าหรือฝ่าย marketing หรือเปล่า คุณทำการตลาดให้เค้าไม่ได้ แล้วลูกค้าไปซื้อเครื่องหิ้วเอง จนยอดขายมันไม่ดี อันนี้โทษใคร ? ผู้บริโภคเหรอ บ้าแงะ คุณ service ไม่ดี แถมแพงอีกใครเค้าจะซื้อ ราคาแบบพอยอมรับได้กับ service ดี ๆ มันก็น่าสนใจ แล้วเงินที่จ่ายไปมันไม่เท่ากับคนซื้อที่อเมริกาหรือไง -_-‘ ก็เงินเท่ากัน ทำไมจะทำให้ไม่ได้ ไม่เข้าใจ แล้ว Apple Thailand มันทำบ้าอะไรอยู่ force มันเข้าไปดิ user ที่ใช้ ๆ กันนี่ต้องช่วยเหลือตัวเองกันตลอดไม่เห็นหัว Apple Thailand จะสนใจเลย แถมต้องมาเสียเงิน up Thai อีก เพื่อ ??? แทนที่คุณจะเสียเงินจ้างคนทำ Thai สำหรับศ.บริการ ผมว่าคุณเอาเงินนั้นน่ะ ซื้อตั๋วเครื่องบินไปกลับ thai/usa ดีกว่ามั้ง แล้วเดินไปบอกที่โน้นเลย มันง่ายกว่าไหม หรือว่ามีส่วนได้ส่วนเสียในค่า commission ในการ up Thai หรือไง ?

ซึ่งผมคิดว่ายังคงคิดเหมือนเดิมว่า เงินเราที่จ่ายไปก็เท่ากับเงินคนที่ซื้อฝั่ง usa นะ แต่ทำไมเราต้องมาเสียแรงมากกว่าเค้าทั้ง ๆ ที่มันน่าจะ "Just Work" ตาม concept ของ Apple นี่หว่า T_T จริงไหม I’m a PC เฮ้ยยย I’m a Mac

ปล. ความคิดเห็นนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัว และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ Siampod.com กรุณาอย่าเหมารวมครับ
ปล2. รมณ์ขึ้นระดับจุดเดือด เฮ้อ…. พูดเรื่องภาษาไทยใน iPod ทีไรของขึ้นทุกทีซิ

ตามไปอ่านต่อในกระทู้ http://www.siampod.com/node/1924 ได้ครับ หรือลงชื่อเรียกร้องได้ที่ www.tosupportthaiinipod.com ครับ

สละชีพเพื่อหน้าที่, อย่าน้อย ๆ ก็รู้ว่าได้ทำ ;)

หลังจากที่เริ่มทำงานจริง ๆ จัง ๆ (อย่างที่บ่น ๆ ใน blog ไปก่อนหน้านั้น) ก็เริ่มเข้าที่แล้ว ถึงจะมีงานที่เร่ง ๆ บ้างในการจัดการฐานข้อมูลและ  tuning ระบบ แต่โดยรวมถือว่าทำงานได้ราบรื่นดี สิ่งหนึ่งที่ได้แง่คิดจากการทำงานคือ

"ถ้าโดนไล่ออกเพราะเราไปมีปัญหาขัดแย้งกับคน เพียงเพราะเราไม่ยอมละทิ้งกฎของงานที่เราตั้งไว้ ยังดีกว่าเราละทิ้งกฎของงานที่ตั้งไว้และทำเพียงเพื่อรักษาความมั่นคงในงานของเรา อย่างน้อย ๆ ก็ยืดอกออกจากบริษัท และบอกกับคนทั้งโลกได้ว่า เราปกป้องกฎและระบบงานของเราอย่างเต็มที่แล้วนั้นเอง"

ทุกวันนี้ถ้ามีใครมาให้เราละทิ้งกฎก็บอกมันไปเลยว่า "ผมไม่ยอมให้ระบบล่มง่าย ๆ เพียงเพื่อสนองความต้องการเพียงส่วนน้อย" หรืออีเมลมาก็ตอกกลับไปว่า "I don’t break my system policy for take care your web application only." จบข่าวหน้าหงายไป แหมจะให้มันซัดทรัพยากรของระบบคนเดียวไม่ได้หรอก

แล้วจะอยู่ครบโปรไหมเนี่ยตรู -_-‘

อีกอย่าง อย่าคิดว่าฝรั่งมันทำงานดีไปเสียหมด นี่เจอกับตัวทิ้งขี้ให้ชาวบ้านแก้เพียบ -_-‘ ต้องมานั่งบอกมันให้มันแก้ แถมตอนนี้มันก็ยังไม่แก้อีก เฮ้อ …… เส้นมันใหญ่ ได้แต่ทำใจ
ปล. ทำงานตอนนี้ใช้ภาษาอังกฤษเยอะ ด้วยความที่ภาษาอังกฤษนี่อ่านพอจับใจความได้ แต่เรื่องฟังและพูดนี่ยังห่วยแตก ส่วนเรื่องพิมพ์ส่งอีเมลและรายงาน ก็พอได้ แต่ก็โดนติง ๆ ว่าผิดบ่อย ตอนนี้เลยพยายามปรับ ๆ อยู่ -_-‘ พยายามกันต่อไป

ทิ้งท้ายสุด ๆ ข้อคิดดี ๆ จากการ์ตูนเรื่อง GODHAND TERU ใน KC.Weekly ฉบับวันพุธที่ 22 สิงหาคม 50, Vol 727

"การทำไม่ได้น่ะ ไม่ใช่เรื่องน่าอายหรอก แต่การปล่อยให้ทำไม่ได้ต่อไปเรื่อย ๆ ต่างหากที่น่าอาย"

คล้าย ๆ กับ "เป็นไปไม่ได้ ทำไม่ได้ หรือไม่ได้ทำ" เลยหล่ะ

ใครที่คิดว่าทำไม่ได้ ๆ ก็พยายามกันหน่อย ถ้าพยายามแล้วไม่ได้จริง ๆ ด้วยข้อจำกัดต่าง ๆ ที่มันนอกเหนือจากสิ่งที่เราควบคุมได้ ก็คิดซะว่าเรารู้วิธีในการทำแล้วผลที่ให้มันล้มเหลวแล้วกัน อย่าน้อย ๆ ก็รู้ว่าได้ทำ

โอกาส

นั่งคิดอะไรเล่น ๆ ได้ประโยคเด็ดมาหนึ่งประโยค

"โอกาส" ไม่ว่าจะใช้มันหรือไม่ใช้ มันก็ต้องหมดไปอยู่แล้ว วันนี้ถ้ามี "โอกาส" พยายามใช้ให้เกิดประโยชน์เท่าที่เป็นไปได้ แต่การใช้ "โอกาส" นั้น ๆ ต้องถูกตามคุณธรรมและศีลธรรมด้วย (อย่างใช้ "โอกาส" ไปเบียดเบียนผู้อื่น)