ความคุ้มค่าของ Software แบบ Subscription

ผมซื้อและแนะนำคนซื้อ Software แบบ Retail มาก่อน เลยมีประสบการณ์ว่าราคาแบบ Subscription นั้นคุ้มค่ากว่า

ส่วนตัวแล้วนั้นพอเห็น Subscription ผมก็แนะนำตัวนี้แทนมากกว่า ลองนึกภาพตามนะว่า ถ้าคุณซื้อแบบ Retail จะคุ้มก็ต่อเมื่อคุณซื้อตอนมันเริ่มออกมาใหม่ๆ หรือไม่เกิน 6 เดือนแรกที่มันขาย และนำมาใช้งานอย่างจริงจัง แต่ถ้าจะเอาให้คุ้มจริงๆ ต้องฝึกใช้งานตั้งแต่มันออก Public Beta เลย แล้วพอมัน Release ขายจริงคุณค่อยไปซื้อมาใช้ตอนเปิดตัวเลย แต่นั้นหมายความว่า Software ที่คุณซื้อต้องสร้างผลกำไรต่องานคุณได้มากจนสามารถคืนทุนตัว Software เหล่านี้ได้ภายใน 3-6 เดือน และนั้นหมายถึงเนื้องานของคุณมีต้นทุนแบบเดียวกับอุปกรณ์รอบตัวคุณเช่นกัน

ประเด็นคือ Software แบบ Subscription นั้นไม่ใช่ให้มาแค่ลงติดตั้งและใช้งานเหมือน Retail เท่านั้น แต่ส่วนใหญ่ Subscription จะมาพร้อมกับความยืดหยุ่นในการใช้งานที่สูงกว่าเช่น การย้าย Platform, การย้ายเครื่อง, ภาษาที่สนับสนุน และบริการอื่นๆ ที่ช่วยในการย้ายไฟล์ระหว่างเครื่องผ่าน Cloud และบางบริการให้พื้นที่เก็บข้อมูลบน Cloud อีกด้วย ซึ่ง Retail โดยส่วนใหญ่จะไม่มี หรือต้องซื้อเพิ่มเป็นการเช่ารายเดือนต่างหากอีกรอบเช่นกัน

ถ้ามองในภาพรวมทั้งหมดแล้ว Subscription นั้นจะค่อยๆ จ่ายไปเรื่อยๆ โดยรวมแล้วถูกกว่าแบบ Retail พอสมควร และทำให้เราเอาเงินส่วนต่างที่ต้องจ่ายหนักๆ นำกลับไปสร้างมูลค่าเพิ่มในด้านอื่นๆ ได้

เช่าใช้งาน Adobe Photoshop แบบ Adobe Creative Cloud ในราคาเดือนละ 600 บาท!

สุดท้ายประเทศไทยเรานั้นในระดับผู้ใช้งานทั่วไป (Individual) ก็ซื้อ Adobe Creative Cloud ผ่าน online ได้เสียทีหลังจากรอมานานเกือบปี

มาดูขั้นตอนกันว่าซื้อยังไง แต่บอกเลยว่าเข้าไปซื้อไม่ยากครับ

เข้าไปที่ https://creative.adobe.com/plans?plan=individual&store_code=th

โดยที่ Select Currency ที่มุมขวาล่างจะเลือก Thai (Baht) ไว้ให้

2013-05-13_202758

รับราคาไหนได้ก็เลือกครับ ส่วนตัวผมเอา Photoshop ตัวเดียว ผมก็เลือก Single App เดือนละ 600 บาท มีพื้นที่ให้ 20GB สำหรับเก็บไฟล์บนนั้นด้วยนะ ไม่ใช่แค่ตัว Software เท่านั้น

สำหรับตัว Complete ที่ราคา 1,500 บาทต่อเดือนนี่คุ้มค่ามาก (แต่ผมคิดว่าผมใช้ไม่หมด) เพราะได้ครบทุกตัวเลยทีเดียว

2013-05-13_220717

แล้วก็เลือก App ที่จะลง ซึ่งก้คือ Photoshop ครับ แล้วเลือกเป็นแบบ Requires annual commitment
(จากความเข้าใจคือทำสัญญาเป็นรายปี แต่เก็บเงินเป็นรายเดือน ถ้ามีการยกเลิกก่อนครบ 1 ปีจะคิดเงินเดือนสุดท้ายแบบย้อนหลังส่วนต่าง โดยคิดส่วนต่างจาก Cancel at any time คือพูดง่ายๆ ย้ายเพิ่มอีกเดือนละ 300 บาทนับจากเดือนที่ใช้งานมาย้อนหลัง)

ตัวเลือก Cancel at any time หมายถึงใช้เป็นเดือนต่อเดือน ราคา 900 บาท เหมาะกับคนที่นานๆ ใช้ทีนึง หรือออกแนว Freelances หรือ Agency ที่ทำงานเฉพาะกิจใช้ 1-2 เดือนแล้วเลิก

ตัวเลือก Requires CS3+ purchase เป็นตัวเลือกสำหรับคนที่มี version เก่าๆ จะได้ลดราคาค่าใช้งานเหลือเดือนละ 300 บาท

2013-05-13_201556

พอเลือกได้ก็มาหน้าสำหรับจ่ายเงินมี 4 ขั้นตอนไม่ยากอะไร

ขั้นแรกก็สร้างหรือเข้าระบบด้วย Adobe ID มาก่อน

มาที่ขั้นตอนที่สองก็สรุปว่าเราเอา plan ตัวไหน (เปลี่ยนแปลงในขั้นตอนนี้ยังทัน)

ขั้นตอนที่สามเป็นเรื่องขอการจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต

สุดท้ายก็ยืนยันการชำระเงินในขั้นตอนที่สี่

2013-05-14_133410

เมื่อทุกอย่างครบก็จบส่วนของการจ่ายเงินและเลือก App จะมีอีเมลยืนยันมา 1 ฉบับ

2013-05-13_202556

เมื่อจ่ายเงินจบระบบจะพามาหน้า Apps ของ Creative Cloud แล้วให้เราโหลด Adobe Application Manager

ก็โหลดมาลงเลยครับ ไม่ต้องรออะไร

2013-05-13_202426

โหลดมาแล้วติดตั้งเสร็จก็รันตัว Adobe Application Manager ขึ้นมาเลย โดยมันจะถาม username/password ของ Adobe ID ตัวที่สมัครและจ่ายเงิน Creative Cloud ไปเมื่อกี้

ระบบจะแสดงรายการ App ที่เราสามารถติดตั้งได้ ส่วนตัว Try นั้นคือ Trial version ติดตั้งได้เหมือนกัน แต่มีการจำกัดระยะเวลาการใช้อยู่

2013-05-13_202449

ไม่ยากเลยตรงนี้ ก็คลิ๊ก Install แล้วตัว Adobe Application Manager มันจะโหลดตัว Photosop CS6 มาลงให้เรา เน็ตใครเร็วๆ หน่อยไม่เกินชั่วโมงก็ได้ใช้งานกันแล้ว (ผมเน็ต 4Mbps ชั่วโมงหน่อยๆ)

พอทุกอย่างผ่าน download ครบ ตัว Adobe Application Manager มัน install ให้เรา ก็จะขึ้นตัว App ในหน้า Start Screen ของ Windows 8 ของผมแล้ว มันโหลดทั้ง 32-bit และ 64-bit มาให้เลย (ตัว Adobe Application Manager คงเช็คว่าเครื่องผมรองรับ 64-bit เลยโหลดมาให้พร้อม)

หมายเหตุ. ที่เป็น Photoshop Lightroom ตัวนั้นผมซื้อเป็น Download version แบบ Retail แยกต่างหากมาตอนเปิดตัวครับ

2013-05-13_215534

ก็เปิดโปรแกรม Adobe Photoshop CS 6 ขึ้นมา จะมี dialog box ให้เรา Login โดยมันจะถาม username/password ของ Adobe ID ตัวที่สมัครและจ่ายเงิน Creative Cloud ไปเมื่อกี้ ก็ Login ไปตามระเบียบอีกรอบ สักพักทุกอย่างถูกต้องก็จะมีข้อความเตือนว่า Activate ผ่าน และใช้งานได้

2013-05-13_220037

ก็เปิด Updates สักหน่อย จะได้ทำงานได้สมบูรณ์มากขึ้น

2013-05-13_215550

จบเรียบร้อยสำหรับขั้นตอนง่ายๆ ของการซื้อ Adobe Photoshop แบบ Subscription ของ Adobe Creative Cloud ในราคาเดือนละ 600 บาท ครับ ^0^/

ปล. ขั้นตอนทุกอย่างทำงานผ่าน Internet ทั้งหมดก่อนเพื่อให้การ activate ตัว Software นั้นสมบูรณ์ครับ

สรุปสั้นๆ Canon EOS 100D

DSC_5895c

  • คุณภาพไฟล์อยู่ในขั้นดีระดับประมาณ 650D ด้วยไฟล์ 18 ล้านพิกเซล
  • เล็ก เบา ใช้งานไม่เป็นภาระกับมือ รู้สึกเหมือนถือ iPad ถ่ายรูปอยู่
  • การจับถือทำออกมาได้ดีเกินคาด กระชับมือมาก กับนิ้วก้อยผมได้ผมโอเค (การออกแบบส่วนนี้โอเคกว่า Nikon D80 ตัวเก่าผมอีก)
  • ปุ่มกดอยุ่ในมุมที่ดี มีปุ่มไม่เยอะ แต่เป็นปุ่มที่จำเป็น เมนูบางส่วนย้ายไปอยู่ที่จอภาพ
  • จอภาพสีสันสวยงาม เป็น touchscreen แบบ capacitive multitouch การใช้งานเลื่อนรูป ซูมเข้า-ออกเหมือนใช้ smartphone เลย การสั่งงานบางส่วนย้ายมาอยู่ที่จอภาพและสั่งงานผ่านการ touch บอกจอได้
  • การเลือก exposure ค่า f หรือ ISO มีผลให้เห็นทันทีถ้าใช้ LiveView ไม่ต้องเดา หรือมโนไปเอง
  • เลนส์คิต 40mm f/2.8 ใช้ดีมาก เข้ากับตัวกล้อง คุณภาพเลนส์ดี ละลายหลังเยี่ยม ที่ f/2.8 ใช้งานได้ดี
  • ที่ระดับ ISO 3200 ส่วนตัวแล้วโอเคกับไฟล์ที่มีมา noise ก็คงมีมาอยู่แล้ว แต่ส่วนตัวมองว่าภาพที่ได้ใสดี แต่แนะนำว่า ISO 1600 ถือว่าเนียนกริป
  • ช่องมองภาพเมื่อใช้ตาส่องเข้าไปไม่รู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด รู้สึกดีกว่า EVIL หลายๆ ตัวในตลาดเสียด้วยซ้ำ
  • มันคือ DSLR ขนาดย่อส่วน แต่คุณภาพของภาพที่ได้ไม่แพ้รุ่นพี่ ใช้กับเลนส์ EF ในตลาดได้เยอะมากทั้งถูกจนถึงแพงมาก แต่อาจมีปัญหาเรื่องสมดุล แนะนำใช้คู่กับคิตถ่ายเอาสนุกโอเคเลย

สรุปย่อๆ กับการใช้งาน BlackBerry Z10

DSC_5893c

  • เรื่องวัสดุตัวเครื่องนั้นดีมาก แม้ไม่ใช่โลหะแต่ก็รู้สึกได้ถึงความแน่นและแข็งแรง ฝาหลังเปิดออกเพื่อเปลี่ยนแบตและใส่หน่วยความจำเพิ่มได้ด้วย น้ำหนักเบาและบาง (น่าจะพอๆ กับ iPhone 5)
  • ช่องต่อ microUSB และ Micro HDMI แยกจากกัน ทำให้ชาร์จไฟไปด้วยและนำเสนองานหรือดูวิดีโอบนจอภายนอกไปด้วยได้สบายๆ
  • การใช้งานเรื่องสั่งงานต่างๆ นั้นต้องทำความเข้าใจใหม่พอสมควร คือถ้าเป็นเครื่องมือหนึ่งเพิ่งแกะออกจากกล่องเลยแนะนำให้ทำตามคำแนะนำตอน เปิดเครื่องว่าใช้งานอย่างไร
  • การเปิดเครื่องครั้งแรกนั้นใช้เวลานานมากประมาณ 10 นาที (จากที่รู้สึก) และหน้าจอยินดีต้อนรับต่างๆ นั้น skip ไม่ได้ทำให้การใช้งานตั้งแต่เปิดเครื่องนั้นทำให้เร็วได้ยากมาก คนเพิ่งซื้อคงต้องใจเย็นสักหน่อย (แต่จะใช้งานมาหลายเครื่องแล้วก็ตาม)
  • ลำดับการลำดับใช้งานตอนแรกจะหลงไป-มาระหว่าง App พอสมควร แต่ถ้าใช้ไปสักพักจะเริ่มชิน
  • ถ้าใช้ Windows phone มาก่อนจะสับสนน้อยลง แต่ถ้าคุ้นกับ iOS และ Android มา แล้วมาใช้งานเลยจะงงมากในช่่วงแรกๆ ส่วนตัวใช้ Windows phone มาก่อนยังงงๆ และหลงทิศทางอยู่ 2-3 วัน กว่าจะเข้าที่ก็ปาไปวันที่ 4
  • ไม่มีปุ่ม Home ไม่มีปุ่ม Back การกลับหน้าหลักจะกลับไปที่หน้า App/Task Listing (App ที่เปิดค้างอยู่) ของ BB10 ไม่ใช่หน้ารวม App อยากไปเปิด App ต้องปัดนิ้วเพิ่ม 1 รอบ ซึ่งอาจทำให้หงุดหงิดสำหรับคนที่ใช้ OS มือถือทั้ง 3 ค่ายก่อนหน้านี้มาก่อน (เพราะวิธีคิดไม่เหมือนกัน)
  • การปลดล็อคเครืองเป็นแนวคิดที่ดีมาก ที่ไม่ต้องใช้ปุ่มจริงในการปลดล็อคก็ได้ ส่วนตัวชอบมากๆ เปิดมาเจอ App Listing ที่เปิดเลย หรือ App ล่าสุดที่เปิดค้างอยู่
  • ความไหล่ลื่นของการใช้งานดีมาก แต่ไม่ลื่นมากเท่า Windows phone อยู่กลางๆ ระหว่าง iOS มากกว่า อาการกระตุกไม่เจอแบบใน Android (เท่าที่ใช้งานมา) ส่วนตัวใครใช้ iOS อยู่อาจจะรู้สึกช้านิดๆ เพราะ Transition ในการเลื่อนนั้นจะช้ากว่าน้อยๆ ทำให้ดูช้า ถ้าความต่อเนื่องมีเยอะ ไม่กระตุกหรือแข็งจนรู้สึกกระพริบ
  • จำนวนของ App ยังไม่เยอะ อาจจะต้องใช้เวลา ใครต้องการใช้ App เสริมที่โหลดเยอะๆ อาจจะต้องเช็คก่อนซื้อว่ามีครบไหม ถ้าเอามาใช้งานด้านธุรกิจและ Social อย่าง twitter/facebook นั้นโอเค เรื่องอีเมลยังเป็นเลิศอยู่ในด้าน push ที่มองว่าเชื่อถือได้ รวดเร็ว ไม่หน่วง สำหรับ LINE และ Instagram ยังไม่มี ส่วน Skype คงต้อรออีกสักพักแต่มาแน่ๆ (ข่าว official ออกหน้า screen แล้ว)
  • การใช้งานด้านโทรศัพท์และการติดต่อสื่อสารด้าน 2G ต่างๆ ทำได้ยอดเยี่ยม การไหลของ UI พวกนี้ทำได้เนียนและเข้าใจง่ายดี
  • ด้านของกล้องไม่มีอะไรเด่นมาก เพราะฉะนั้นเรื่องรูปภาพที่ได้นั้นไม่แตกต่างจากเจ้าอื่นๆ เท่าไหร่นัก คิดว่าคงต้องปรับปรุงเรื่อง Camera App เพิ่มเติมสักหน่อย

เอาเท่านี้ก่อนนะครับ…

DSC_5890