พาชมงานเปิดตัว Panasonic Toughbook ทั้ง 3 รุ่นในไทย

เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2556 ที่ผ่านมาทาง Panasonic ได้เปิดตัวแท็บเล็ตและโน๊ตบุ๊คที่ผลิตเพื่อจับกลุ่มความต้องการของลูกค้าองค์กรในภาคอุตสาหรกรรมที่เน้นความทนทานสูง เหมาะกับผู้ใช้งานที่ต้องการใช้งานในสภาพแวดล้อมหลากหลาย โดยมีการเปิดตัวทั้งหมด 3 รุ่น โดยทั้ง 3 รุ่นนี้รองรับ Microsoft Windows 8 ทั้งหมด ซึ่งได้แก่ Panasonic Toughbook CF-AX2, Panasonic Toughbook CF-C2 และ Panasonic Toughpad FZ-G1

WP_20130404_026

ในงานช่วงเริ่มต้นนั้นได้นำเสนอเรื่องราวของ Panasonic Toughbook ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่ได้รับการยอมรับในด้านการออกแบบขึ้นมาเพื่อเป็นโน๊ตบุ๊คที่เหมาะกับการใช้งานนอกสถานที่เป็นประจำ โดยจุดประสงค์หลักเพื่อนำไปใช้ในสถานที่สุดโหด ที่ตัวเครื่องนั้นต้องทนต่อฝนตก ฝุ่นผงต่างๆ ในระหว่างการทำงาน โดยมาพร้อมระบบรักษาความปลอดภัย ระบบการจัดการตัวเครื่อง และความสามารถในการเชื่อมต่อที่หลากหลาย

ซึ่งหน่วยงานที่มักนำไปประจำการนั้นได้แก่ หน่วยงานภาครัฐที่ทำงานด้านการแจ้งเตือนเหตุภัยพิบัติในประเทศญี่ปุ่นและทั่วโลก ในโรงงานอุตสาหกรรมหนัก และในรุ่นที่ทำงานเป็นแท็บแล็ตนั้นยังถูกใช้ในโรงพยาบาลมากมายในประเทศญี่ปุ่นด้วย

ตัวอย่างในงานที่นำมาให้เล่นกันอย่าง Toughbook CF-H2 Field ซึ่งไม่ได้ทำตลาดในไทยตอนนี้ (วิดีโอด้านล่าง)

Toughbook CF-H2 Field – test drive

Panasonic Toughpad FZ-G1 มาในรูปลักษณ์แบบแท็บเล็ตออกแบบมารองรับงานสมบุกสมบัน กันน้ำได้และยังทนทานต่อแรงตกกระแทกได้เป็นอย่างดี โดยได้ผ่านการทดสอบ MIL-STD-810G ของสหรัฐอเมริกาแล้ว

 

G1_image_03 G1_standard_back_02

  • ใช้ CPU Intel Core i5-3437U (Intel HD Graphics 4000) ขนาดของ RAM ที่ 4GB (มีรุ่น 8GB ด้วย แต่จะฝั่งมากับบอร์ดเลยใส่เพิ่มไม่ได้)
  • หน้าจอสัมผัส Capacitive ขนาดหน้าจอ 10 นิ้ว Resolution ที่ 1920×1200 pixel พร้อมตัวกรองแสงสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนในที่กลางแจ้ง รองรับ multitouch จำนวน 10 จุด
  • ใช้ Windows® 8 Pro 64-bit บน SSD ขนาด 128 GB
  • กล้องหน้า 1.3MP และกล้องหลังที่ 3MP รองรับ autofocus และ LED lighting
  • แบตเตอร์รี่อยู่ได้ประมาณ 8 ชั่วโมงและถอดเปลี่ยนได้
  • รองรับทั้ง WiFi, Bluetooth 4.0 และมีตัวเลือกสำหรับเพิ่มเติม 3G ให้ด้วย
  • การเชื่อมต่อนั้นมีทั้ง 24-pin Port Replicator Connector, Full size USB 3.0, HDMI และหูฟัง
  • มีชุดโมดูลสำหรับเพิ่มเติมการเชื่อมต่อได้โดยสามารถใช้ micro SDXC, USB 2.0, LAN port, Serial port หรือ GPS
  • น้ำหนักประมาณ 1.1 กิโลกรัม

G1_standard_front

โดยจากการได้ทดสอบภายในงาน นั้นน้ำหนักค่อนข้างหนักวัสดุตามขอบของตัวเครื่องนั้นคล้ายๆ ยางรอบตัว ปุ่มกดต่างๆ นั้นซิลป้องกันน้ำและฝุ่นมาแน่นหนาดี และช่องเชื่อมต่อนั้นมีที่ปิดป้องกันไว้เช่นกัน

ในด้านความเร็วในการตอบสนองของการทำงานนั้น จากที่ได้ลองใช้ก็ทำงานได้ไม่แตกต่างจากตัวเครื่องโน๊ตบุ๊คโดยทั่วไปเท่าไหร่นัก แต่แน่นอนว่าข้อเสียของแท็ตเล็ตรุ่นนี้ก็คือขนาดตัวเครื่อง ความหนา และความหนักที่อาจจะน้องๆ โน๊ตบุ๊คเลยทีเดียว

(ผมไม่ได้ถ่ายรูปสินค้าตัวจริงของ FZ-G1 มา มีเพียงวิดีโอสาธิตการตกกระแทกและการป้องกันน้ำมาให้ชมกัน)

Panasonic Toughpad FZ-G1 – test

Panasonic Toughbook CF-C2 มาในรูปลักษณ์แบบโน๊ตบุ๊คกึ่งแท็บเล็ตออกแบบมาให้รองรับสภาพแวดล้อมสุดโหดที่ออกแบบที่เอาข้อดีจากรุ่นพี่ Toughbook CF-19 รุ่นก่อนมาใส่

c2_front_open_01

Panasonic Toughbook CF-19 รุ่นก่อน
WP_20130404_061 WP_20130404_063
WP_20130404_074 WP_20130404_076

สำหรับเจ้า Toughbook CF-C2 นั้นได้รับการออกแบบให้ดูดีมากขึ้น และใช้วัสดุนั้นใช้อัลลูมิเนียมเยอะกว่าเดิมมากขึ้น

c2_front_close_monitor

  • ตัวเครื่องมาพร้อมกับ CPU ของ Intel Core i5-3427U 1.8GHz (Intel HD Graphics 4000)  พร้อมหน่วยความจำขนาด 4GB และใส่เพิ่มได้อีกเป็น 8GB เหมือนโน๊ตบุ๊คทั่วๆ ไป
  • ใช้ Windows 8 Pro 64-bit ทำงานบน HDD ขนาด 320GB หรือจะใช้ SSD ขนาด 128GB หรือ 256GB ก็ได้เช่นกัน
  • หน้าจอสัมผัส Capacitive ขนาดหน้าจอ 12.5 นิ้ว Resolution ที่ 1366×768 pixel รองรับ multitouch จำนวน 5 จุด
  • รองรับทั้ง Gigabit Ethernet, WiFi, Bluetooth 4.0 และมีตัวเลือกสำหรับเพิ่มเติม 3G ให้ด้วย
  • มี port USB 3.0/2.0 มาให้ในตัว พร้อม VGA port, HDMI, เพิ่มเติม Serial port (RS232C) แทน VGA port ได้
  • น้ำหนักประมาณ 1.81 กิโลกรัม

c2_front_open_02 c2_front_right_model_w_digitizer
หลังจากได้ทดสอบจับในงานนั้น (ผมไม่ได้ถ่ายรูปเครื่องมา) ตัวเครื่องนั้นให้ความรู้สึกแข็งแรงกว่าเจ้า Toughbook CF-19 ซึ่งคงเพราะการออกแบบที่ใช้อลูมิเนียมที่เยอะชิ้นกว่า แต่การป้องกันในช่องเชื่อมต่อต่างๆ นั้นอาจจะไม่เท่ากับรุ่นพี่ เพราะเป็นรุ่น Semi Rugge นั้นเอง

ส่วนที่ค่อนข้างชอบคือการถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่นั้นทำได้ง่ายและไม่จำเป็นต้องปิดเครื่อง เพราะเครื่องนั้นจะมีแบตเตอรี่มาให้ 2 ชุดโดยระหว่างเปลี่ยแบตเตอรี่ชุดแรก ชุดที่สองจะทำงานต่อเนื่องให้เราทันที ทำให้เราสามารถทำงานต่อเนื่องได้เรื่อยๆ ระหว่างสลับแบตเตอรี่

แน่นอนว่าส่วนที่อาจจะทำให้หลายๆ คนไม่ชอบคือความหนาของตัวเครื่องที่ค่อนข้างหนาเลยทีเดียว แต่ก็แลกกับความแข็งแรงที่ให้มาอย่างมากเลย

สำหรับตัวคีย์บอร์ดนั้นเป็นแบบ Spill resistant คือมีช่องระบายน้ำออกมาแทนการป้องกันน้ำเข้าเครื่องแทน เพราะเป็นรุ่น Semi Rugge นั้นเอง

ในด้านความเร็วและการใช้งานโดยทั่วไปนั้นตอบสนองได้ดีไม่แพ้โน๊ตบุ๊คทั่วๆ ไป สำหรับการพิมพ์บนตัวคีย์บอร์ดนั้นอาจจะยากสำหรับคนที่นิ้วใหญ่สักหน่อย (แบบผม) เพราะปุ่มกดนั้นไม่ใหญ่มากนักและการจัดเรียงตัวคีย์บอร์ดชิดกันพอสมควร อาจจะต้องใช้การปรับตัวกันพอสมควร

Panasonic Toughbook CF-AX2 รูปลักษณ์อัลตร้าบุ๊คกึ่งแท็บเล็ตที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานกึ่งสมบุกสมบัน เป็นการออกแบบตัวเครื่องแนว Flip-Over ที่จอภาพสามารถหมุนได้ 360 องศากลับมาอีกด้านหนึ่งเพื่อใช้เป็นแท็บเล็ตได้

ax_front

ตัวเครื่องนั้นออกแบบมาแตกต่างจากรุ่นพี่ โดยใช้การออกแบบว่า Business ruggedized ซึ่งไม่ใช่การออกแบบที่ทนทานต่อสภาพแวดล้อมโหดๆ แต่เน้นรองรับการใช้งานในภาคธุรกิจที่ต้องเคลื่อนย้ายไป-มาได้สบายๆ โดยมุ่งเน้นความทนทานที่มากกว่าโน๊ตบุ๊คในตลาดโดยทั่วไป แล้วด้วยคุณสมบัติแบบอัลตร้าบุ๊คทำให้มันเบาและบางกว่ารุ่นพี่ที่ออกมาก่อนหน้านี้อย่างมากเลยทีเดียว

ตัวเครื่องมาพร้อมกับ CPU จาก Intel Core i5-347U 1.8GHz (Intel HD Graphics 4000)  พร้อมหน่วยความจำขนาด 4GB เพิ่มเติมไม่ได้

ติดตั้ง Windows 8 Pro 64-bit บน SSD ขนาด 128GB

WP_20130404_103 WP_20130404_104WP_20130404_106 WP_20130404_100

การออกแบบในส่วนของบริเวณคีย์บอร์ดนั้นจัดวางได้ค่อนข้างดี แต่จำนวนปุ่มนั้นมีเพียง 85 ปุ่มและลดทอนไปใช้ short-key ตัวอื่นๆ แทน โดยสัมผัสการพิมพ์นั้นค่อนข้างดี แต่ตัวปุ่มบนคีย์บอร์ดนั้นจะเล็กและพิมพ์ได้ค่อนข้างยากสำหรับคนที่นิ้วใหญ่ๆ สักหน่อย 

มีกล้องหน้าขนาด HD 720p มาให้สำหรับใช้ Webcam

WP_20130404_083 WP_20130404_091WP_20130404_098 WP_20130404_099

สำหรับการเชื่อมต่อต่างๆ นั้นมีมาให้ค่อนข้างครบทั้ง USB 3.0, VGA port, HDMI, ช่องเสียบไมค์และหูฟัง, SD/SDXC Slot

การเชื่อมต่อเครือข่ายนั้นมีทั้ง Gigabit Ethernet, WiFi, Bluetooth 4.0 และเพิ่มเติม 3G module ได้

สำหรับแบตเตอรี่นั้นมีมาให้ 2 ชุดโดยชุดแบบเปลี่ยนไม่ได้ซึ่งติดตั้งภายในเครื่องและชุดที่เปลี่ยนได้เอง โดยเหตุผลที่ทำแบบนี้เพราะต้องการให้สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ตัวหลักได้โดยไม่ต้องปิดเครื่องระหว่างที่เปลี่ยนแบตเตอรี่

WP_20130404_116 WP_20130404_117

ในด้านของจอภาพนั้น เป็นจอภาพสัมผัสแบบ capacitive รองรับ multitouch จำนวน 10 จุด ขนาด 11.6” ที่ resolution ขนาด 1366×768 pixel

WP_20130404_119

ในด้านความแข็งแรงนั้น ผ่านการทดสอบตกกระทบพื้นแบบอิสระ (Free-fall) กว่า 76cm และรองรับแรงกดทับได้ถึง 100kg เลยทีเดียว (ดูตัวอย่างการขึ้นไปยืนบนตัวเครื่องจากรูปด้านล่าง) และคุณซาโตชิ มิโซบาตะ ผู้อำนวยการ พานาโซนิค ทัฟบุ๊ค เอเชีย แปซิฟิก กรุ๊ป ได้เอากลับขึ้นมาเล่นต่อให้ชมกันว่ายังทำงานได้อย่างสบายๆ

WP_20130404_108

WP_20130404_114

สำหรับตัว Panasonic Toughbook และ Toughpad ทั้งสามรุ่นนี้พร้อมจำหน่ายในประเทศไทยแล้วโดยมุ่งไปที่ขายในตลาดองค์กรเป็นหลัก และยังไม่มีจำหน่ายสำหรับบุคคลทั่วไปในตอนนี้แต่อย่างใด สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดตามได้ที่ www.panasonictoughbook.asia ส่วนราคานั้นยังไม่มีเปิดตัวราคาอย่างแน่ชัด ใครที่จะเสนอองค์กรให้นำ Panasonic Toughbook และ Toughpad สามารถขอราคาได้โดยตรงจากทาง Panasonic ได้จากเว็บไซต์ข้างต้น

คุณชอบ Gangnam Style ของคุณ ผมชอบ Gentleman ของผม แค่นี้ก็พอแล้ว

หลังจากดู MV จบ ผมว่างานนี้เพลง Gentleman อาจช่วยผลักให้ยอดวิว Abracadabra ของหมวยกาอินพุ่งขึ้นกว่าเดิมเป็นที่แน่นอน สำหรับในด้านความเกรียนแล้วนั้น พยายามนำเสนอให้เกรียนมากกว่าเดิม แรงกว่าเดิม บ้าและดิบกว่าเดิม ตามแนวทางของ PSY เค้า ซึ่งถ้าเคยติดตามงานเพลงคงรับกันได้ไม่ยากนัก ในส่วนของความ sexy ของตัว MV นั้น ส่วนตัวแล้วนั้น MV เพลง Gentleman ของ PSY นี้ยังไม่ได้ครึ่งของ Abracadabra ต้นฉบับท่าเต้น Gentleman เลย ซึ่งยิ่งได้ไปดู MV เพลง Bloom ของกาอิน ตัวล่าสุดแล้วด้วย รายนั้น 20+ อย่างชัดเจนครับ >,<

ในด้านของตัวเพลงนั้น ไม่มีอะไรใหม่มากมายนัก บีทของเพลงก็ตามปรกติแนวๆ นี้ เน้นเอาไปใช้ในเทศการสนุกสนานเป็นหลัก คือไม่ได้มีความแปลกใหม่จนว้าว แถมจริงๆ เพลงเก่าอย่าง Gangnam Style ก็ไม่ได้ว้าวมากเช่นกันนะ แต่ทำออกมาในช่วงที่ตลาดเพลงไม่มีอะไรแปลกใหม่จนเป็นกระแสด้วย ทำให้เกิดกระแสขึ้นในตอนนั้น ซึ่งส่วนตัวแล้วมองว่า Gangnam Style เป็นจังหว่ะของการโปรโมตรที่ทำออกมาได้พอเหมาะพอดี พูดง่ายๆ ว่า “จังหว่ะเฮง” นั้นเอง เพราะ PSY เองก็คงไม่ได้หวังว่า Gangnam Style จะดังอะไรมากมาย เพราะจากที่ได้ตามๆ มานั้น เค้าก็ทำเพลงเอามันแบบนี้อยู่แล้ว

สำหรับกระแสในบ้านเราอาจจะไม่ดังและนอกประเทศเกาหลีก็คงจะเริ่มเฉยๆ แต่ทุนเก่าจาก Gangnam Style ก็ยังมีพอจะดันให้เพลง Gentleman ไปต่อได้อีกสักพักใหญ่ อาจมีอีเว้นหรืออะไรที่ทำให้เกิดกระแสต่อเนื่องหลังจาก MV เพื่อให้ยังอยู่ในกระแสไปอีกสักพัก แต่จะมาทำลายสถิติ Gangnam Style โดยส่วนตัวก็มองว่ายากอยู่นะ คือของแบบนี้ต้องดูยาวๆ เพราะตอน Gangnam Style คนไม่ชอบก็เยอะ คนชอบก็มาก แต่เพลงก็ไปได้เรือยๆ จนยอดวิวทะลุไปไกลเลย เพราะฉะนั้นยังตัดสินลำบากสำหรับเพลงทำออกมาสานต่อความสำเร็จของตัวเองในตอนนี้

จริงๆ เพลง Gentleman ร้อง “mother father” gentelman เนี่ย ควรเป็น “mother fucker Gentleman!” ต่างหาก!!

เปลี่ยนมาใช้ของแรงกว่า กับ Ocz Vector 256GB

จากที่เคยได้เขียนรีวิวเล็กๆ ครั้งที่เปลี่ยนมาใช้ SSD Ocz Octance SATA3 128GB เมื่อสักช่วงปีที่แล้ว เมื่อสัก 1-2 อาทิตย์ก่อน ตัว SSD ที่ใช้อยู่เริ่มมีอาการอยู่ๆ ก็ค้างไป ซึ่งตอนแรกนึกว่าเป็นที่ตัว OS แต่ไปๆ มาๆ ติดตั้งตัว Windows 8 ไป 2-3 รอบก็ไม่หาย เป็นอาการเดิมตลอดเวลา เลยลองสลับมาใช้ Windows 7 ก็ยังคงเป็นอาการนี้อยู่ แต่พอใช้ HDD 7200rpm ตัวที่มีอยู่ใช้งานกลับไม่พบอาการ ไฟ indicator ของ HDD ค้าง แล้วทำให้ OS มันค้างไปดื้อๆ แบบที่ SSD เป็น ผมเลยตัดสินใจเคลมและถอยตัวใหม่มาเป็น Ocz Vector 256GB แทนตัวเก่าเสียเลย รอบนี้ผมก็ซื้อร้านเดิมอย่าง memorytoday.com ครับ

WP_20130413_006

Ocz Vector ตัวนี้เป็นรุ่นล่าสุดของ Ocz ในตอนนี้ มีความหนาเพียง 7mm เท่านั้น สามารถนำไปใส่ใน Ultrabook ที่ออกแบบช่องใส่ HDD ขนาด 7mm ได้สบายๆ โดยไม่ต้องถอดตัวถังออกมาให้หมดประกันแต่อย่างใด

ข้อมูลทางเทคนิคสั้นๆ ก็คือ ตัว SSD นี้ใช้หน่วยความจำแบบ NAND Flash MLC Synchronous ที่ออกแบบบนสถาปัตยกรรม 25nm โดยใช้ Controller เป็น Indilinx BareFoot III ซึ่งเป็นยี่ห้อที่ Ocz ไปควบรวมกิจการมาและขึ้นชื่อว่าเสถียรยี่ห้อหนึ่งในตลาด

สำหรับความเร็วในการอ่าน-เขียนของตัวนี้นั้นอยู่ที่ 550MB/s (อ่าน) 530MB/s (เขียน) และมีค่า IOPS ที่ 95,000 – 100,000 IOPS

มาดูที่ผมใช้งานจริงแบบสั้นๆ กันผ่าน AS SSD Benchmark สักนิดกัน

ocz-vector

ของแถมสักนิดสำหรับคนที่อยากหา SSD แบบ mSATA ที่ร้าน memorytoday.com มี Transcend 720 SATA III (6Gpbs) mSATA SSD ขนาด 64GB กับ 128GB ขายครับ ราคาก็แพงกว่าตัว 2.5” ปรกติประมาณนึง แต่เหมาะกับ Notebook ที่มีช่องใส่ mSATA เหลือและอยากใช้ SSD คู่กับ HDD แต่ไม่มีที่ใส่ SSD 2.5” คู่กับ HDD ก็ลองตัวนี้ได้ครับ ซึ่งตัวนี้ความเร็วอ่าน-เขียน ประมาณ 500MB/s แรงกว่า mSATA Ocz Nocti ตัวเก่าที่ผมเคยลองมาด้วย

WP_20130413_004

OBLIVION คู่กรรมไซไฟ+แฟนตาซี ที่มีจุดเปลี่ยนเพราะ “ผัวเมียได้กัน”

แนะนำว่า OBLIVION ควรดูโรง Digital ครับ หนังถ่ายด้วยกล้องดิจิตอลความละเอียดสูงระดับ 4K เรื่องแรก เพราะฉะนั้นรับประกันว่าเนียน งานซีจีเนียนดี ภาพสวยคม กลับมาอยากโยน Full HD ทิ้ง!

294960851_1356142533

แนวเรื่องไซไฟ+แฟนตาซี ดราม่า แอ็คชั่นพอเป็นพิธี คือไม่ใช่แอ็คชั่นบู๊ล้างผลาญไซไฟเต็มขั้น เพราะฉะนั้น มีบางช่วงอาจทำให้ง่วงได้ งานดีไซน์ต่างๆ ในเรื่องดูล้ำดีมาก งาน UI ของ Computer ในเรื่องค่อนข้างออกแบบดูน่าสนใจดี (ไม่เยอะ แต่ชอบ)

Oblivion starring Tom Cruise

เรื่องราวเดาง่ายในบางจุด แต่บางจุดก็ต้องบอกว่า อ้าว! เฮ้ย! เลย

2417-TP-00034R-jpg_220724

Minority Report ก็เรื่องแล้ว มาเรื่องนี้ ผมว่าโอเคเลยนะ ทำไมหนัง Tom แกชอบมี UI ล้ำๆ มาให้เห็นอยู่เรื่อยก็ไม่รู้

นางเอก นางรอง แข่งกันสวย พระเอกเราก็สบายตัวกันไป แต่นางรองดูสวยกว่าหว่ะ #ห้ะ

มีอะไรใหม่บ้างใน Drupal 8

จากบทความDrupal 8 is Coming เขียนโดย Alex Rayu

ผมขอสรุปสั้นๆ ว่า Drupal 8 ปรับเปลี่ยนอะไรบ้าง

  • Core CMS จะใช้การพัฒนาบน Symfony framework
  • Theme engine ใช้ Twig PHP template engine
  • รองรับ Mobile ตั้งแต่การติดตั้งเลย (HTML 5 and CSS 3) โดยไม่ต้องลง mobile mobule
  • รองรับไฟล์ media ต่างๆ โดยไม่ต้องลง media mobule
  • มีระบบ Internationalization ที่ดีกว่าเดิม ทำให้สนับสนุน multilingual ได้ดีขึ้น
  • ย้ายการตั้งค่าต่างๆ ไปใช้ CMI

ส่วนอื่นๆ คงตามได้จาก Drupal 8 Updates and How to Help ต่อไปครับ