เห็นว่ามีประโยชน์มากครับ
ยกมาจาก http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X3466631/X3466631.html ครับ
“การให้เลือดปกติเราต้องให้ตรงกรุ๊ปกันเท่านั้น”
ที่สอนกันมาตอนมัธยม ว่า
AB รับได้ทุกกรุ๊ป
O ให้ได้ทุกกรุ๊ป
อันนั้นคลาดเคลื่อนเป็นการมองจากด้านเดียวจะอธิบาย หลักการคร่าวๆ ก็คือ
คนเราถ้าเป็นเลือดกรุ๊ปไหน ก็จะมี Antigen (Ag) กรุ๊ปนั้น และไม่สร้าง Antibody (Ab)ต้านเม็ดเลือดตัวเอง แต่จะมีการสร้าง Antibody ต่อAntigen อื่นที่ตัวเองไม่มี
ดังนั้นคนที่
กรุ๊ป AB จะมี Ag A และ AgB จึงไม่มี Ab A และ Ab B
กรุ๊ป O จะไม่มี Ag A และ AgB จึงมีทั้ง Ab A และ Ab B
กรุ๊ป A จะมี แต่Ag A จึงไม่มี Ab A แต่จะมี Ab B
กรุ๊ป B จะมี แต่Ag B จึงไม่มี Ab B แต่จะมี Ab Aถ้าเราให้เลือดไปแล้ว มี Antigen กับ Antibody นั้นๆเจอกัน (คือ AgA เจอกับ AntiA หรือ AgB เจอกับ AntiB ) จะทำให้เกิดเม็ดเลือด
แดงแตกหรือจับกลุ่มตกตะกอน(Agglutination) เป็นอันตรายต่อคนรับได้
การที่บอกว่า O ให้ได้ทุกกรุ๊ปนั้นเป็นการมองด้านเดียว
คือไป คิดว่า เลือดคนไข้หมู่ O ที่มี ไม่มี Antigen A และ B อยู่บนตัว ทำให้ไม่ถูกทำลาย โดย Antibody ของเลือดคนที่จะรับ
แต่อย่าลืมว่า เลือดคนไข้หมู่ O ที่เม็ดเลือดไม่มี Antigen นี่ ในน้ำเลือดหรือพลาสม่าของเค้าจะมี Antibody ทั้งต่อ A และ B
ทำให้เมื่อได้ให้ไปกับเลือดกรุ๊ปอื่น ซึ่งมี Ag A หรือ B อยู่ก็จะเกิดปัญหาได้ เช่นกัน
ดังนั้นการให้เลือดจะต้องให้ตรงกรุ๊ปเท่านั้น
หรือถ้าจำเป็นจริงๆ จะต้องให้ข้ามกรุ๊ป การนำเลือด O ไปใช้ ก็ต้องเอาไปแต่เม็ดเลือดที่ล้างเอา Antibody ที่มีปนในน้ำเลือดออกให้มากที่สุด
ซึ่งก็เป็นเรื่องยุ่งยาก
ยังไงก็ลองเข้าไปอ่านเพิ่มอาจจะมีการเพิ่มเติมจากนี้ครับ … เดี่ยววางๆ จะ save มาลงอีกรอบ ….
ขอบคุณมาก ได้ความรู้เยอะมาก
ใครๆ เขาก็รู้ กันน่ะ ว่า Antigen กับ Antibody มันมีความสำพันธ์กันอย่างไร แต่ไม่มีใครนึกได้เหมือนคุณ มันก็จริงน่ะถ้าเป็นอย่างนี้จริง
แต่ที่ผมงงก็คือว่า
หมู่ โอ นั้น ถ้าไม่มี Antigen A กลับ B แล้วมันจะมี Antibody ได้อย่างไร
ตอนนี้เราน่าจะเข้าใจได้ว่า หมู่ โอ นั้น Antibody ใดๆ เลย
หรือว่าผมไม่รู้ หรือว่าเข้าใจผิด อยากรู้ครับ