- ทำการ redesign ตัว clean url ใหม่อีกรอบ ด้วยการกลับมาใช้แบบเดิมเมื่อตอนออกแบบครั้งแรกคือ controller/action แทน ส่วนต้องการแก้ไข url ใหม่ ก็เพิ่มลงไปใน xml เอา โดย default คือ <map pattern=”:controller/:action” /> ถ้าต้องการใช้ user/login เป็น login เฉย ๆ ก็ <map pattern=”login” action=”user/login” /> แทนซะ หรือถ้าต้องการ rewrite ตัว url ที่มีการส่ง value ด้วยก็ <map pattern=”news” action=”page/show/1″ /> แทนก็ได้เช่นกัน โดยในรุ่นต่อไปจะมี plugin เสริมสำหรับการ hook ตัว xml ตัวนี้ให้ไปใช้ database ได้ แบบเดียวกับ drupal แทนช้าลงและโหลด db มากขึ้น กำลังจุดลงตัวในส่วนนี้ โดย clean url นี้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นเยอะกว่าเดิมมาก และลดความซับซ้อนในการตั้งค่าลงไปเยอะด้วย แต่ต้องแลกกับความยืดหยุ่นบางส่วนไป แต่ถ้าว่า ok กว่าเดิมมาก ๆ ในตอนนี้
- หน้า error handler page นั้น ok แล้ว เพื่อดักข้อผิดพลาดในกรณีไฟล์ของ controller หรือ view ไม่มี รวมถึง arguments ไม่ครบเมื่อ controller ไป handle ตัว action
- ตัว config ไฟล์ใน .ini file และสามารถทำ inherit config ได้ด้วย เช่น
[production]
database.default.type=mysql
database.default.hostname=localhost
database.default.username=root
database.default.password=1234
database.default.name=album
[development : production]
database.default.hostname = localhost
database.default.username = root
database.default.password = 1234
- เมื่อเราเลือก production เป็น environment มันจะไปดึงตัว config มาของ production มา แต่ถ้าใช้ development ก็จะไปดึงส่วนของ development ที่ override ตัว production มาใช้เท่านั้น ทำให้ลดการตั้งค่าลงไปเยอะ
- ในส่วนของ Model layer มี 3 ทางเลือกให้ extends มาใช้งานได้ คือ Zend_Db, Doctrine หรือ LogicModel (ตัวนี้ผมเขียนเอง สนับสนุนแค่ MySQL เท่านั้น) โดยใครถนัดแบบไหนก็ใช้แบบนั้นได้เลย เพียงแค่ตั้งค่าใน Model แต่ละตัวว่าจะใช้แบบไหน กำลังหาจุดลงตัวเพื่อให้เราสามารถใช้ Model ได้หลากหลายรูปแบบการ extends จาก 3 ทางเลือก บางครั้ง Model บางตัวอาจจะเหมาะกับ Doctrine มากกว่า 2 ตัวที่เหลืออะไรแบบนั้น และอาจจะรองรับการเขียนด้วย function mysql(i) เดิม ๆ ได้ด้วย โดยผมมองว่า Model นั้นเป็น Business logic ซึ่งควรมี performance สูงที่สุดในการเขียนและนำไปใช้งานครับ
- การส่งข้อมูลจาก controller ไปหา view นั้นใช้การ return ของ action ใน controller นั้น โดยการส่งข้อมูลแบบตัวแปรเดียวก็ได้ หรือส่งเป็น array ออกไปก็ได้ โดยส่งเป็น array จะทำการ fetch ข้อมูลให้ชั้นนึงเพื่อส่งผ่านเป็นตัวแปรนึงใน view ให้เลย โดยใช้การ map key เป็นชื่อตัวแปรใน dimension ที่ 1 ของ array ซะ
- พยายามเอา ORM หลาย ๆ ตัวมาใช้ร่วมกันใน Model เพื่อลดการยึดติดของระบบกับรูปแบบ ORM ของตัวใดตัวหนึ่ง
- ยังคงใช้ Zend แบบหลักในการพัฒนาระบบภายในเช่นเดิม
ตอนนี้โดยรวมพยายาปั้นตัวแรกออกมาให้ได้ก่อน เพื่อเอามารับคำติของทุกท่านครับ เพื่อเอามาพัฒนาต่อไปครับผม