@FordAntiTrust

มันจะเป็นบทสรุปของการว่า “ทำไมต้องมีแฟน” หรือเปล่า

     จากหนังสือทางด้านจิตวิทยาเบื่องต้น ว่าการมีแฟน ผลดี ผลเสีย เป็นอย่างไรนั้นยังไม่มีใครตอบได้ครับซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่ามันขึ้นอยู่ที่บุคคลนั้นตามแต่สภาพแวดล้อมต่างๆ ครับ

ทำไมเหรอ ? เรามาดูกันดีกว่า

     ถ้าคนพากันทำตัวดี ช่วยกันเรียน ไม่ไปทำในเรื่องผิดศีลธรรม การเป็นแฟนก็จะมีแต่ผลดีในเชิงสร้างสรรค์ พ่อแม่ และคนรอบข้างก็สนับสนุน ซึ่งแทบจะไม่มีผลเสีย

     ถ้าคนพากันเลว พากันเที่ยว พากันไปโน้นไปนี่ ทิ้งการเรียน ไม่มีพ่อแม่ของใครจะไม่ปฏิเสธว่ามีผลดี มีแต่ผลเสีย

     แต่ปัญหาสำคัญคือ "พ่อแม่เสียใจ" ถ้าเราทำตัวไม่ดีผิดจากที่เราควรจะเป็น ผิดต่อหน้าที่นั้นๆ ในช่วงนั้นๆ ด้วย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเช่นนั้น

 เพราะอะไรเหรอ ?

     ตรงนี้เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า วัยในช่วงไหนบ้างที่เหมาะ และไม่เหมาะ ที่ไม่เหมาะเพราะอะไรและจะแก้ไขอย่างไรได้บ้าง

     หน้าที่ในการเรียนถ้าพูดตรงนี้แล้ว คู่ไหนที่เป็นแฟนกัน หรือดูๆ กันแล้วไม่ก่อให้เกิดปัญหา เนื่องจากการทำหน้าที่เรียนได้ดี และทำกิจกรรม เข้าร่วมงานสังคมได้สม่ำเสมอ ไม่ผิดประเพณีของสังคม นั้น และปฏิบัติไปพร้อมกับการเป็นแฟนกัน เป็นอะไรที่ทำได้ไม่ยากเลย เพราะว่าในชีวิตช่วงการทำงานนั้นยากกว่าเรียน ทำไมยังทำงานไปอยู่เป็นแฟนเป็นคู่ไปได้ล่ะครับ

 ปัญหาสำคัญไม่ได้อยู่ตรงนี้ !!!

     แต่อยู่ตรงที่ว่าเรายับยั้งชั่งใจได้มากแค่ไหนเมื่ออยู่ในสถานที่ล่อแหลม (ขอใช้คำแรงหน่อยนะ) …..

 เพราะอะไรน่ะเหรอ ?

     เพราะว่าอารมณ์และสถิติ รวมไปถึงวุฒิภาวะของวัยต่างๆ ไม่เท่ากัน ทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้

ซึ่งปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้นคือ "ทำให้บุพการีเสียใจ" และนำพาไปสู่สิ่งต่างๆ ที่ไม่คาดฝัน

     ฉะนั้น ผมจึงมองว่า หากพ่อแม่รับได้ สังคม ok กับสิ่งที่ทั้งคู่ทำ การจะเป็นแฟนไปด้วยเรียนไปด้วยก็ไม่มีใครว่า ซึ่งถ้าพ่อแม่รับไม่ได้ ก็ไม่ควรเป็นแฟนกันครับ อันนี้ตอบแบบตรงๆ เราเปลี่ยนความคิดพ่อแม่เราไม่ได้ เราต้องเปลี่ยนตัวเราครับ เราต้องปรับตัวเราให้เข้ากับสังคม และความเข้าใจเพราะว่า พ่อแม่ ย่อมรู้จักเราดีมากกว่าคู่(แฟน) ของเรา นั้นทำให้เราควรอดทนเสียหน่อย คบกันเป็นเพื่อนไปแบบอยู่แยกกันซึ่งก็ไม่เห็นเสียหลายตรงไหนครับ ดีซะอีกจะได้เป็นการลองใจกัน ดูกันยาวๆ ผมว่าดูดีและไม่มีอันตรายต่อตัวเองตัว

     แต่ถ้ามีพ่อแม่หรือครู(อาจารย์) ห้ามคบเป็นเพื่อนเลย อันนี้นี่ผมไม่เห็นด้วยครับ เพราะว่าใจคนนั้นห้ามยากให้เค้าเปิดอกคุยกัน ดูเค้าห่างๆ ให้ตัวเราเหมือนเป็นเพื่อนคอยแนะนำการใช้ชีวิตห่างๆ ทำให้เค้าเห็นเราเป็นคนที่ปรึกษาได้ เวลาเกิดเหตุการณ์ไม่คาดงันเกิดขึ้นอย่างน้อยๆ เค้าก็บอกเรา ปรึกษาเรา จะได้ผ่อนหนักเป็นเบา ช่วยเหลือกัน นั้นคิดสิ่งควรทำ ปัญหาที่เกิดขึ้นมาแล้วแก้ไขไมได้ แต่ป้องกันได้ ครับ

     หลายคนก็บอกว่าถ้าไม่อยากทำให้พ่อแม่เสียใจ ก็ไม่เห็นต้องเป็นแฟนกัน เพราะว่าไอ้คนที่เข้ามาในชีวิตลูกเค้าก็ไม่รู้ว่ามันจะมาอีแบบไหน มันจะมาหวัง … หรือยังไง อันนี้แนะนำว่า ให้เป็นที่ปรึกษาอย่าไปห้ามทันทีทันใด จะกลายเป็นว่าทำให้เค้าแอบคบกัน หลับหลังเราเปล่าๆ

     แต่แนะนำว่าคบกันเป็นเพื่อนไปก่อน ก็ได้ครับ แต่ถ้าพ่อแม่ยอมรับ ok กับเค้าแล้ว อันนี้ต้องคิดเองแล้ว ว่าจะยังไง เพราะว่าอนาคตเราต้องตัดสินชีวิตเราเองบ้าง และการคบกันเป็นเพื่อนกันนั้นอย่างน้อยๆ ก็ทำให้มีคนช่วยคิด ช่วยเรียน ช่วยปรึกษา จริงไหมครับ

Exit mobile version