Tablet ในวงการศึกษา

ขอสั้นๆ จริงๆ มีเรื่องเยอะกว่านี้ แต่อันนี้ออกแนวพูดแบบเร็วๆ

ปัญหาเรื่อง Tablet ในวงการศึกษา ถ้ามองในปัจจุบัน ไม่ใช่ตัว "เด็ก" หรือ "ผู้เรียน" แต่คือ "ผู้สอน" และ "ผู้ดูแล" มากกว่า ว่าจะจัดการและสามารถทันต่อการเปลี่ยนแปลงนี้ได้หรือไม่

การเอา "เนื้อหา" และ "สื่อต่างๆ" เข้าสู่ภูมิภาคต่างๆ ที่ห่างไกล และขาดโอกาส (และเงินทุน) เป็นการกระจายโอกาสทางการศึกษา จะด้วยระบบสื่อสารความเร็วสูงอย่าง ADSL, WiMax และหรือดาวเทียมก็ตาม อุปกรณ์รับ แสดงผล และป้อนข้อมูลที่ง่ายกว่า Desktop/Notebook Computer ถือเป็นสิ่งที่น่าสนใจ อาจจะเอาไปทำรายงานเป็นจริงจังไม่ได้ แต่ก็เอาไปเพื่อใช้งานใน input ที่ง่ายๆ (ซึ่งในตัวอย่างให้เห็นอยู่มากมาย) การนำไปเพื่อรับสื่อเช่นวิดีโอ โดยอาจจะ copy แล้วส่งผ่านระบบไปรษณีย์พื้นฐาน ในกรณีที่ไม่มีระบบการสื่อสารอื่นๆ ที่ดีกว่า เพราะการส่งข้อมูลหลาย TB ผ่านโปรษณีย์เป็นเรื่องที่ทำง่ายและไว ในระดับที่ยอมรับได้ (ส่งวันนี้ไม่เกิน 3 วันถึงที่หมาย)

ซึ่งถ้ามองในมุมเนื้อหาวิชาการที่เป็นหนังสือเป็นเล่มๆ แล้วนั้น แทนที่จะต้องแบกหนังสื่อจำนวนมากๆ ไปโรงเรียนให้หนักและก่อให้เกิดอันตรายต่อสรีระร่างกาย (โรคต่างๆ ที่เกียวกับกระดูกสันหลัง) ถ้าได้เห็นการเรียนในปัจจุบันจะเห็นเด็กระดับประถมต้องแบกหนังสือกระเป๋าลากกันแล้ว ซึ่งดูบ้าบอมาก และไม่เหมาะสมกับสรีระ รวมถึงภาระของการเคลื่อนย้ายสถานที่เรียนที่มากมายขนาดนั้น ลองนึกถึงภาพลูกคุณต้องแบกรับน้ำหนัก 3-5 กิโลกกรัมเพื่อหิ้วไปไหนมาไหน ขนาดวัยรุ่น-กลางคนยังบ่นว่า Notebook 1-2 กิโลกรัมแบกไปทำงานยังว่าหนัก เด็กๆ สมัยนี้เค้าขนกันหนักกว่านี้อีก เพราะฉะนั้นการมีอุปกรณ์ที่จัดเก็บและแสดงผลได้หลากหลาย การเชื่อมต่อระบบสื่อสารและการป้อมข้อมูลที่ง่าย ในน้ำหนักที่ไม่มาก จึงเป็นสิ่งที่ควรมีไว้เป็นทางเลือก

เลิกนำกระบวนทัศน์แบบเดิมๆ ในอดีต ที่โลกเรามีข้อมูลเนื้อหาวิชาการณ์ที่ไม่เยอะ มาตัดสินและจำกัดการเข้าถึงข้อมูล ข่าวสารและการเรียนรู้ของคนรุ่นใหม่ที่เค้าต้องมาแทนที่คุณเพื่อพัฒนาประเทศและโลกในอนาคตได้แล้ว

 

4 thoughts on “Tablet ในวงการศึกษา”

  1. เรื่องนี้มันคงอยู่ที่ใครพูด ฝ่ายไหนพูด
    ลองให้อีกฝ่ายที่เป็นที่รัก พูดเรื่องเดียวกันดู ขี้คร้านจะมีแต่คำสรรเสริญซาบซึ้ง

    ส่วนตัวเห็นด้วยกับ tablet นะ เพราะตอนเด็กๆ แบกกระเป๋าเรียนหนัก 4-5 โลได้
    ถึงจะมีล็อคเกอร์ฝากหนังสือเรียน แต่หนังสือก็หายอยู่ดี!!

    ปัจจุบันมีโอกาสเดินเข้าไปในห้องสมุดกลางมหาวิทยาลัยใหญ่ๆ พบว่า นิสิตทุกโต๊ะในโถงล่าง ย้ำ ทุกโต๊ะ
    ล้วนมี Notebook Netbook Macbook ส่วนตัวใช้ทำงานทั้งสิ้น
    ดูเหมือนทั้งบทเรียน การบ้าน รายงาน ทุกอย่าง จะเป็นดิจิตอลไปหมดแล้วยุคนี้

  2. เห็นด้วยครับ แต่ผมกลัวอย่างเดียว กลัวเด็กมันไม่รักษาของ เพราะนิสัยคนไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยถนอมของที่เป็นของสาธารณะ ถ้ามีมาตราการมาป้องกันตรงนี้ด้วยจะดีมาก เช่นถ้าเครื่องเสียเพราะเกิดจากใช้ที่ผิดวิธีหรือไม่ถนอม ให้ผู้ปกครองรับผิดชอบค่าซ่อมเป็นต้น

Comments are closed.