EditPlus new patch ! (3.00 build 358)

ไม่มีอะไรมากครับ เพิ่ง update ไปเมื่อวาน ตามไปโหลดได้ที่ Latest Bug Patch File (2008-02-29)

DATE: 2008-02-29
BUILD: 358

This is a patch file to fix the bugs of EditPlus v3.00

Copyright © 1998-2008 ES-Computing
Contact: [email protected]
Homepage: http://www.editplus.com/

FIXED BUGS
==========

* The default encoding of open file follows system language instead of keyboard language.
* User tool setting could not handle more than 500 characters.
* Increases max number of projects to 200.
* ‘New’ command on the Cliptext Window did not work.
* Default encoding setting did not apply to new document.
* Upward Regular expression replace did not work correctly.
* ‘Cut Marked Lines’ did not work correctly with selected text.
* -n command-line option did not work with existing instance.
* Browser menu could temporarily cause program freeze.
* Regular expression ‘.’ could cause program crash.

2008-03-05_100201

ปัญหาของ EditPlus 3.0 (จากตอนที่แล้ว) ได้ถูกแก้ไขแล้ว (Path334_0215)

จาก ท่าทางจะไม่ถูกกับ EditPlus 3.0 (ณ. ตอนนี้) เมื่อวาน ผมอีเมลไปบอกทาง Support ของ EditPlus (ตอน 4 ทุ่มคืนวันที่ 17 ก.พ. 51) แล้วก็ได้รับการแก้ไขแล้ว โดยอีเมมลตอบกลับมาพร้อมกับ path สด ๆ ร้อน ๆ เมือตอนเที่ยงที่ผ่านมานี่เองครับ (ไม่ถึง 24 ชั่วโมงสำหรับ path อันนี้ครับ) โหลดได้ที่ http://www.editplus.com/epp300p334_0215.zip 

DATE: 2008-02-15
BUILD: 334

This is a patch file to fix the bugs of EditPlus v3.00

Copyright © 1998-2008 ES-Computing
Contact: [email protected]
Homepage: http://www.editplus.com/

INSTALLATION
============
Extract the files in the ZIP file to EditPlus 3.00 installation directory.

FIXED BUGS
==========

* The default encoding of open file system languages instead of keyboard language.
* Function list could cause program crash in some cases.
* User tool setting could not handle more than 500 characters.
* Increases max number of projects to 200.

ถือเป็นการแก้ไขปัญหาที่รอดเร็วอย่างมาก ไม่เสียทีที่เสียเงินซื้อ ;)

ท่าทางจะไม่ถูกกับ EditPlus 3.0 (ณ. ตอนนี้)

พอดีว่าเพิ่ง upgrade ตัว EditPlus เป็น 3.0 แล้วก็ downgrade กลับมาใช้ตัว 2.31 b524 เหมือนเดิมแล้ว เพราะมีปัญหากับไฟล์ที่มีภาษาไทย ที่เป็น encoding แบบ ANSI (ซึ่งเป็นตัว default เดียวกับ Notepad นั้นแหละ) โดยมาหลัง ๆ ผมใช้ encoding ของไฟล์เป็น UTF-8 เกือบหมดแล้ว จะมีบางงานเท่านั้นที่ใช้ ANSI อย่าง latex ที่ผมต้อง compile งานซึ่งเป็น ANSI มันจะดีกว่าเยอะ ไม่ต้องตั้งอะไรมากก็ใช้งานได้ดี (ผมใช้ MikTex 2.7 + ThaiLaTex แบบลงมือไม่ได้เป็น auto นั่งทำอยู่ 2 วัน) โดยไฟล์ที่เปิดมาใน 3.0 มันจะโดย change ตัว encoding ไป CP1252 แทนที่จะเป็น ANSI แทน แบบใน 2.31 น่ะ ซึ่งมันแปลกมาก ๆ ทั้ง ๆ ที่เปิดได้ทั้ง 2.31 และ notepad ก็ ok แต่ใน 3.0 กลับไม่ได้ -_-‘ ลำบากมาก ๆ เลยกลับมาใช้ตัวเดิมซะ

แล้วนี่ก็เพิ่งอีเมลไปแจ้ง support ของ EditPlus แล้วว่ามันมีปัญหานี้ ไม่รู้จะได้เรื่องอะไรหรือเปล่า แต่ว่ามันก็ต้องได้เรื่องแหละ เพราะเราเป็นลูกค้าเค้า ควรจะแก้ปัญหาให้เราได้ (ผมซื้อ license ของ EditPlus มาตั้งแต่ปี 2005 แล้ว)

ปัญหานี้ทำให้เสียเวลานั่งไล่แก้ไข ซะงง เลยว่าเป็นที่ user error หรือว่าเป็นที่ bug กันแน่ แต่เท่าที่เปรียบเทียบแล้วเป็นที่ app แน่นอน

Syntax Format และ Auto-Complete ของ Ruby on Rails บน Editplus

จริง ๆ ทำได้มาหลายวันแล้ว และน่าจะได้เวลาเอามาปล่อยเสียที ที่ทำเพราะเห็นว่าในเว็บหลักของ Editplus เองนั้นมีให้โหลดอยู่ แต่พอโหลดมาแล้ว เซงจิต เพราะ Ruby Syntax Format และ Auto-Complete ของ Editplus ที่  Tomasz Machalski เขียนนั้น ครบคลุมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เลยเอามาปรับปรุงใหม่เยอะพอสมควร และทำขึ้นเพื่อไว้สำหรับรองรับ Ruby on Rails ด้วย โดยไฟล์จะมี 2 ส่วน 2 แบบ คือไฟล์ stx ซึ่งเป็นไฟล์ Syntax ที่มี 2 แบบคือ Syntax แท้ ๆ ของ Ruby และ Rails Frameworks ที่มักใช้ในการทำงาน และ Rails HTML (rhtml) ที่เอาไว้แก้ไขไฟล์ rhtml เมื่อเราจะเขียน Ruby on Rails ส่วนต่อมาคือ acp ซึ่งเป็นไฟล์ Auto-Complete โดยมีไฟล์ 1 ไฟล์ที่เอาไว้สำหรับพิมพ์เพียงนิดหน่อยแล้วเคาะวรรค ก็เป็นชุดคำสั่งที่เราต้องการได้เช่น

  • พิมพ์ class แล้วเคาะวรรคก็จะมี end ต่อท้ายให้เลย
  • พิมพ์ bt แล้วเคาะวรรคก็จะมี  belongs_to :object , :class_name => "ClassName", :foreign_key => "object_id" ออกมาให้แทน
  • เป็นต้น

ซึ่งช่วยให้เราสะดวกมากขึ้นในการเขียนภาษา Ruby  และ Framework อย่าง Rails

ซึ่งเท่าที่ทำมาก็ทำเท่าที่ตัวเองใช้และคาดว่าน่าจะมีส่วนที่ต้องเพิ่มเติมในอนาคต โดยตัวไฟล์ที่ปล่อยนี้อยู่ที่ revision ที่ 5 และคาดว่าจะมีการปรับเปลี่ยนอีกพอสมควร

ส่วนการติดตั้งนั้นก็ลองหาวิธีกันเอาเองนะ ไม่น่ายากเกินไปสำหรับคนที่เล่น Editplus มาพอสมควร อย่างน้อย ๆ คนใช้พวก Editplus ก็คงเป็นพวก Programmer ที่มีทักษะในการใช้งานโปรแกรมอยู่พอสมควรอยู่แล้ว

Ruby file


Rails HTML

ดาวน์โหลดได้ที่นี่

เซต Editplus เพื่อ Compile และเปิดไฟล์ Java ให้ทำงาน

  1. ทำการลงโปรแกรม EditPlus และ SDK ของ JAVA ชื่อ J2SE Development Kit ลงในเครื่องก่อน เพื่อให้ในเครื่องมีตัว Compile และ Editor เพื่อใช้ในการทำงานเสียก่อน
  2. เปิดโปรแกรม EditPlus และไปที่ Tools และตามด้วยเมนู Configure User Tools
  3. ตัวโปรแกรมจะเปิดหน้าต่างใหม่ ที่ชื่อว่า Preferences และตัว Cursor อยู่ที่ User tools ให้คลิ้กที่ปุ่ม Groups Name เพื่อทำการเปลี่ยนชื่อ Groups เป็น JAVA ซึ่งระบบจะขึ้นหน้าต่าง Rename User Tool Group ให้กรอง และเมื่อกรองเสร็จแล้วกด OK ออกมา และเราจะเห็นชื่อ Group 1 จากของเดิม เปลี่ยนเป็น JAVA แล้ว
  4. ต่อมาเราจะมาทำการสร้างตัว Command ในการ Compile ในตัวโปรแกรม EditPlus โดยไปที่ปุ่ม Add Tools และไปที่ Program ซึ่งโปรแกรมที่เราจะ Add เข้านี้มีชื่อว่า JAVA Compiler หรือชื่อ javac.exe นั้นเอง โดยให้ Browse ไปที่อยู่ของ javac.exe ซึ่งส่วนมากจะอยู่ใน directory  bin ของ JAVA รุ่นนั้นๆ เช่น "C:\Java\jdk1.5.0_01\bin\javac.exe" ซึ่งแล้วแต่เราว่าเราจะเอาไว้ที่ไหนนั้นเอง เมื่อ Browse หาเจอแล้ว ตัว Path ของไฟล์ javac.exe จะถูกนำมาใส่ไว้ในช่อง Command ให้เราเลยทันที และใน Menu Text ให้ใส่ Compile เข้าไป
  5. จากนั้นในส่วนของช่อง Argument  จะใช้ในการใส่ค่าของชื่อไฟล์ของเรา ในที่นี้ให้ไปที่ปุ่ม   และเลือกที่ File Name ซึ่งตามหลักการ Compile ใน Command Prompt ใน Dos นั้นจะมีรูปแบบคือ "C:\javac HelloWorld.java" ตัวโปรแกรมจะทำการใส่ไปให้เราเองดังที่ได้กล่าวไปในตอนแรกแล้ว
  6. ในช่องของ Initial directory นั้นปกติใช้เพื่อทำการบอกตัวโปรแกรมว่าให้ทำการ compile ที่ไหน โดยไปทีปุ่มเครื่องหมายลูกศรชี้ลง แล้วเลือก File Directory เมื่อทำทั้งหมดเสร็จแล้วให้กด Apply
  7.  ต่อมาเราจะมากล่าวถึงในส่วนของการให้โปรแกรมที่เขียนด้วยภาษา JAVA นั้นสามารถทำงานได้หลังจากทำการ Compile แล้ว ให้ที่ไป Add Tools และไปที่ Program ซึ่งโปรแกรมที่เราจะ Add เข้านี้มีชื่อว่า JAVA Interpeter หรือชื่อ java.exe ซึ่งส่วนมากจะอยู่ใน directory  bin ของ JAVA รุ่นนั้นๆ เช่น "C:\Java\jdk1.5.0_01\bin\java.exe" นั้นเอง เมื่อ Browse หาเจอแล้ว ตัว Path ของไฟล์ java.exe จะถูกนำมาใส่ไว้ในช่อง Command ให้เราเลยทันที และใน Menu Text ให้ใส่ Run เข้าไป
  8. จากนั้นในส่วนของช่อง Argument  จะใช้ในการใส่ค่าของชื่อไฟล์ของเรา ในที่นี้ให้ไปที่ปุ่ม   และเลือกที่ File Name Without Extension ซึ่งตามหลักการ Interpeter Running ใน Command Prompt ใน Dos นั้นจะมีรูปแบบคือ "C:\java HelloWorld" ตัวโปรแกรมจะทำการใส่ไปให้เราเองดังที่ได้กล่าวไปในตอนแรกแล้ว
  9. เมื่อทำการติดตั้งเสร็จแล้ว เราก็จะได้คำสั่งในการ Compile และ Run ออกมา
  10. ทดสอบโดยการเขียนโปรแกรมทดสอบ HelloWorld
    class HelloWorld {
          public static void main(String[] args) {
               System.out.println("Hello World!");
          }
    }
  11. และทำการ Save เป็น HelloWorld.java (หรือให้ชื่อไฟล์เหมือนกับชื่อของ Class ที่ทดสอบ)
  12. เมื่อ Compile จะได้ผล
    ———- Compile ———-
    Output completed (1 sec consumed) – Normal Termination
  13. และเมื่อ Run จะได้ผล
    ———- Run ———-
    Hello World!
    Output completed (0 sec consumed) – Normal Termination
  14. เมื่อได้แบบนี้แล้วแสดงว่าติดตั้งแต่สมบูรณ์เรียบร้อย ……